เรียน คุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท51 ที่นับถือ
ผมอายุ 58 ปี แต่งงานมาแล้ว 2 หน ภรรยาคนล่าสุดเพิ่งอยู่กินกันมาได้ 3 ปีกว่า ไม่มีลูกด้วยกัน แต่ภรรยามีลูกติด 2 คน ครอบครัวมีความสุขดี แต่ที่เป็นปัญหาคือผมเป็นคนที่มีอารมณ์เพศบ่อยมาก ที่ผ่านมากับภรรยามีอะไรกันเกือบทุกวัน โชคดีที่ภรรยาก็มีอารมณ์ร่วมด้วยตลอด แต่ที่กังวลใจตอนนี้คือเวลาที่อวัยวะเพศแข็งตัวทีไรมักจะไม่ค่อยอ่อนตัวคือจะแข็งค้างอยู่นานพอควรกว่าจะลงได้ และเป็นแบบนี้บ่อยมากจนช่วงหลังมานี้ไม่อยากมีอะไรกับแฟนกลัวว่าจะเกิดอันตรายมากกว่านี้ แต่ที่น่าสังเกตคือแข็งค้างทีไรผมจะไม่มีอาการปวดหรือเจ็บแต่อย่างใด แต่มันทำให้น่ารำคาญและกังวลใจ จึงไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร และอันตรายไหม หากเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ จะแก้ไขได้อย่างไรครับ ผมกับแฟนยังต้องการมีความสุขทางเพศอยู่ครับ
ด้วยความนับถือ
ฉลาด58
ตอบ ฉลาด58
อาการทางเพศของชายวัย 58 ปี คือ อวัยวะเพศแข็งค้างโดยปราศจากความเจ็บปวดใด ๆ ทางการแพทย์เรียกว่าภาวะไพรอะพริมส์ เป็นแบบชนิด Nonischemic (arterial, high flow) priapism เป็นภาวะองคชาตแข็งตัวค้างที่ไม่เกี่ยวข้องทางเพศที่เกิดจากการไหลเข้าของเลือดสู่องคชาตที่ผิดปกติ โดยทั่วไปกล้ามเนื้อคอร์ปอร่า คาเวอร์โนชา จะไม่ได้แข็งตัวเต็มที่หรือเจ็บปวด ผลการตรวจก๊าซในเลือดจะไม่มีลักษณะออกซิเจนต่ำหรือเลือดเป็นกรด ไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินเพราะกล้ามเนื้อเพศได้รับออกซิเจนเพียงพอและการแข็งตัวที่เกิดขึ้นไม่เจ็บปวด สาเหตุส่วนมากของภาวะ nonischemic priapism เกิดจากโรคโลหิตจาง โรคมะเร็งของเม็ดเลือด
การได้รับยาบางชนิดที่ทำให้เกิดภาวะ Priapism จากการฉีดยาเข้าสู่กล้ามเนื้อเพศ เช่น กลุ่มยา Papaverine และ Prostaglandin กลุ่มนี้จะปวดมากและกลุ่มไม่ปวดจากการได้รับบาดเจ็บบริเวณอุ้งเชิงกราน อวัยวะเพศหรือฝีเย็บ การได้รับบาดเจ็บบริเวณดังกล่าวอาจทำให้เกิด arteriocavernous fistulae ซึ่งทำให้เกิด nonischemic priapism ได้ โดยเฉพาะการล้มหรือการถูกกระแทกบริเวณฝีเย็บ การบาดเจ็บอื่น ๆ ที่มีรายงาน คือ การได้รับบาดเจ็บที่องคชาตระหว่างการร่วมเพศ การบาดเจ็บบริเวณอุ้งเชิงกราน การบาดเจ็บจากการถูกเตะที่องคชาตหรือฝีเย็บ และการบาดเจ็บจากเข็มที่ใช้ฉีดยาเข้าที่องคชาต จะเริ่มปวดก่อนแล้วตามด้วยการแข็งตัวแบบไม่ปวด อาจเกิดหลังได้รับการบาดเจ็บนานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันก็ได้ การเกิดไพรอะพริมส์แบบ Nonischemic priapism มีอันตรายกับชีวิตน้อยมากเนื่องจากภาวะ nonischemic priapism ไม่ได้ทำให้เซลล์ที่องคชาตได้รับความเสียหายและการรักษาที่ช้าขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร
ฉะนั้นการจัดการมาตรฐานของภาวะนี้ คือ การสังเกตอาการโดยจากรายงานพบว่าคนไข้ประมาณ 2 ใน 3 จะหายได้เอง แต่การเกิดภาวะนี้มีความเสี่ยงต่ออาการที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาการเหล่านั้นได้แก่ การหย่อนสมรรถภาพทางเพศซึ่งพบได้ 50% และภาวะอื่น ๆ เช่น เนื้อตายที่องคชาต การอักเสบเป็นหนองที่กล้ามเนื้อเพศ และฝีหนองที่ฝีเย็บ ขอแนะนำให้ไปตรวจร่างกายและขอคำแนะนำจากแพทย์ทางเดินปัสสาวะหากจำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไข จะได้หายกังวลใจและกลับมามีความสุขทางเพศได้อย่างเดิม.
………………………………………….
ดร.โอ สุขุมวิท51
