ภายหลังจากเมื่อวาน (18 ส.ค.61) นายอนุชิต ทาคำ ได้โพสต์คลิปพร้อมขอความระบุว่า “จอดรถซ้อนคันโปรดระวัง ดันรถแบบนี้ก็ได้หรอ รถคนอื่นเขาเสียหายหมด เหตุเกิด 22:26 น. จงใจดันรถชน และขับรถตัวเองดันชนรถคนอื่น แจ้งนิติของคอนโดแล้ว นิติไปล็อกล้อรถคันดังกล่าว พี่แกก็ตัดที่ล็อกล้อ แถมยังบอกนิติว่านิติทำเกิดกว่าเหตุ นิติบอกให้เจรจากับคันที่ชนก่อน ก็บอกให้ไปแจ้งความกับตำรวจเอาเอง เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ พร้อมบอกว่า ไม่ได้อยากติดใจเอาความอะไร เพียงอยากให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และเซ็นยินยอมเป็นคู่กรณี หากรถสามารถเคลมกับประกันได้ ตามที่ได้นำข่าไป (อ่าน : เหยื่อจี้ ชายมักง่ายขยับเก๋งถอยดัน เข็นชนเพื่อจอด ช่วยโผล่คุยประกัน – ทนายชี้ ผิดชัดเพราะตั้งใจ )
วันที่ 19 ส.ค.61 ที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ นายอนุชิต ทาคำ ผู้เสียหายพร้อมคู่กรณีได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน นายอนุชิต เผยว่า ครั้งแรกตนคิดว่าจะไม่โพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊ก เพราะติดต่อคู่กรณีไม่ได้และบอกให้ทางนิติบุคคลติดต่อ คู่กรณีก็ท้าให้ไปแจ้งความ ตนจึงตัดสินใจโพสต์ภาพกล้องวงจรปิดเพื่อให้คู่กรณีมายอมรับการกระทำของตัวเอง
ด้านนายอภิชาติ พุทธกระจ่าง อายุ 30 ปี ผู้เสียหายอีกราย เผยว่า ตนจอดรถอยู่ที่ลาดจอด และไม่มีการล็อกที่จอด ซึ่งใครมาถึงก่อนก็จอดก่อน โดยตอนแรกตนไม่ทราบว่ารถเป็นรอย แต่เพื่อนส่งคลิปมาให้ดูทางเฟซบุ๊กจึงรู้ว่ามีรถของตนถูกเข็นจากคันหลังมาชนของตนที่จอดอยู่คันหน้าจนได้รับความเสียหาย
ขณะที่ผู้ก่อเหตุ นายศุภชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนเองไม่ขอเล่าถึงเหตุผลที่ทำและขอไกล่เกลี่ยคู่กรณีทั้งหมดว่า ตนจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด ส่วนตัวพักที่คอนโดแห่งนี้มาประมาณ 1 ปี และไม่มีการระบุช่องจอดซึ่งถ้ารถไม่ได้จอดชั้น 1 ก็ต้องขับไปจอดรถที่ลานจอดชั้น 7 ของลานจอดรถ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากขอโทษสังคมในสิ่งตนได้ทำลงไป และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ว่า จะทำอะไรลงไปก็ให้คิดก่อนที่จะทำ
ด้านร.ต.อ.ศุภชัย ศรีสุระ ร้อยเวรสอบสวนสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดเหตุผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้วและพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ จากภาพก็เห็นว่ามีการขับรถชนรถผู้อื่นแต่ถ้าคู่กรณีทั้งสองฝ่ายตกลงค่าเสียหายกันได้ก็สามารถถอนคำแจ้งความร้องทุกข์ได้เช่นกัน
