อัยการสั่งไม่ฟ้อง ‘ชัยวัฒน์’ กับพวก คดีหน่วงเหนี่ยวกักขัง-ฆ่า “บิลลี่” ส่งคืนสำนวนพร้อมหลักฐาน 17 แฟ้ม เหลือสั่งฟ้องข้อหาเดียว ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ…
มีรายงานว่า มีหนังสือจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงวันที่ 23 ม.ค. 2563 ระบุเนื้อหาสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ในข้อหาฆ่านายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำเรียกร้องสิทธิในที่ทำกินชาวกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2557
โดยก่อนหน้านี้ ดีเอสไอเดินหน้าหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนจะแจ้งข้อหานายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน ใน 8 ข้อหา ส่งให้สำนักงานอัยการคดีพิเศษพิจารณา ในคดีพิเศษที่ 13/2562 สำหรับรายละเอียดที่อัยการส่งกลับมายังดีเอสไอ ระบุข้อหาที่ไม่สั่งฟ้อง 7 ข้อหา จาก 8 ข้อหา รวมทั้งข้อหา “ฆ่า” และ “กักขังหน่วงเหนี่ยว” มีเพียงข้อหา “การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่” เท่านั้น ที่ไม่ระบุในเอกสารแจ้งสั่งไม่ฟ้อง
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปัตตานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า วันนี้มีโทรศัพท์เข้ามาสอบถามหลายสายว่ารู้ข่าวไหมเรื่องคดีบิลลี่ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ตนเองก็เพิ่งทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนที่มีการนำเสนอในวันนี้เช่นกัน ว่าสั่งไม่ฟ้องเกือบหมดเหลือเพียงคดีน้ำผึ้งป่า จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าข้อเท็จจริงนั้นเป็นอย่างไร ตนเองเพิ่งไปรายงานตัวที่ศาลมาเมื่อวานนี้ก็ไม่ทราบหรือระแคะระคายอะไรเลย ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ต้องกราบขอบพระคุณอัยการพิเศษและอัยการสูงสุด ที่ให้ความเมตตาและให้ความเป็นธรรมผมกับลูกน้องอีก 3 คน
ถ้าถามว่าดีใจหรือไม่ ก็ตอบได้ว่ารู้สึกโล่งใจส่วนหนึ่ง ถ้าเป็นจริงก็จะรู้สึกในความเป็นธรรมต่อกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น อันที่จริงแล้วผมเพิ่งไปรายงานตัวที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะมีนัดครั้งต่อไปในวันที่ 3 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการฝากขังผัดฟ้อง เพราะครบกำหนด 7 ผัด ผัดละ 12 วัน รวม 84 วัน ก็ให้เตรียมทั้งทนายและนายประกันมาด้วย เพราะในวันนี้ต้องดูว่า จะมีการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง หรือมีคำสั่งเพิ่มหรือไม่ ข้อมูลก็มีเท่านี้ที่ทราบ
นายชัยวัฒน์ บอกว่า จนถึงนาทีนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับกรณีนายบิลลี่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนเองพอรับได้แต่ครอบครัว ได้รับผลกระทบมาก ที่สำคัญ ลูกน้องและครอบครัวของลูกน้องต่างก็ได้รับความเสียหาย นับถึงขนาดนี้ก็ประมาณ 5-6 เดือน ตลอดเวลาที่มีข่าวตนเองแทบไม่อยากไปไหนเพราะกลัวเขาไม่ต้อนรับ ก็ข่าวที่ออกมาเป้าหมายที่ตนเองทั้งสิ้น แม้ว่าที่ผ่านมา จะต้องเครียดและทนทุกข์กับข่าวที่ DSI ออกเป็นระยะ ทำให้ครอบครัวและตนเองต้องทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส และหากไม่มีเงินประกันตัวป่านนี้ก็คงต้องนอนอยู่ในเรือนจำ ขนาดประกันตัวออกมาแล้ว DSI ก็ยังตาม จะขอให้ศาลยกเลิกการปล่อยตัวชั่วคราวอีก ไหนจะผู้คนในสังคมสาปแช่ง ก่นด่า โดยที่เขาไม่รู้ข้อเท็จจริง แบบผมและครอบครัว และลูกน้องทั้ง 4 คน ต้องทนทุกข์ทรมาน ทั้งทางด้านจิตใจ และร่างกาย ตลอดระยะเวลาในการรับราชการมาตนเองได้สร้างผลงานไว้มากมายในการปกป้องทรัพยากร เราได้ทรัพยากรทั้งที่ดินและ ทรัพยากรธรรมชาติคืนมา แต่ต้องมารับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ ซึ่งตนก็ยืนยันมาตลอดว่าไม่เป็นเรื่องจริง
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายถามว่าจะมีการ ฟ้องกลับเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมหรือไม่นั้นตนเองคงยังต้องปรึกษาหารือ อย่างที่เรียนตั้งแต่ช่วงต้นว่าก็เพิ่งทราบข่าวเหมือนกันสุดท้ายคงต้องรอวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันครบฝากขังว่า จะมีการ สั่งฟ้องหรือไม่หรือมีการแจ้งข้อหาอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่าคงต้องหารือกันอีกทีขณะนี้ยังไม่คิดเกินเลยไปถึงขั้นนั้น.
