เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการร่วมประชุมส.ส. ถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวพาดพิงผู้มากบารมีเข้ามาแทรกแซงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนไม่ได้มีปัญหากับนายพีระพันธุ์ และที่ผ่านมา ตนพูดถึงปัญหาภายนอกที่เข้ามาแทรกแซง ตั้งแต่สมัยเลือกหัวหน้าพรรคครั้งที่แล้ว และวันนี้มีข่าวพยายามแทรกเข้ามาด้วยการใช้เงินและสิ่งต่างๆ ซึ่งตนได้คุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ว่าจะปล่อยเรื่องนี้หรือ เราต้องควรหาทางพูดกันอย่างไร หรือไม่ แม้นายพีระพันธุ์ไม่เอ่ยชื่อ แต่คนทั่วไปรู้ว่าหมายถึงใคร
"ผมจึงขอชี้แจงว่า ไม่ได้มีอะไรที่พูดพาดพิงนายพีระพันธุ์ แต่พูดถึงบุคคลภายนอกที่พยายามแทรกแซงด้วยเงินเพื่อซื้อคนในพรรค และการที่นายพีระพันธุ์พูดว่า ใครอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามจะถูกพิฆาตนั้น ก็ไม่จริง ตนไม่เคยพิฆาตใคร ไม่มีบารมีที่จะทำให้ใครเสียหรือดีขึ้น ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรค ตนได้พูดกับผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรณ์ว่า ตนเลือกนายจุรินทร์ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขา ทั้งในด้านอาวุโสสูงสุด วัยวุฒิ คุณวุฒิ อีกทั้งมีประสบการณ์ไม่ได้ด้อยกว่าใคร ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ยังมีโอกาสวันข้างหน้ามี เพราะอายุยังน้อยกว่านายจุรินทร์นับสิบปี"นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์แปลกที่เกิดขึ้น คือ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่ให้สัมภาษณ์ว่าคนรุ่นใหม่ของประชาธิปัตย์มีแผนอยากเปลี่ยนแปลงสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นแบบของประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าได้นายพีระพันธุ์เป็นหัวหน้าพรรค ย่อมดีกว่าคนรุ่นใหม่ในพรรค ถ้านายกรณ์ หรือนายอภิรักษ์ เป็นหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์เตรียมสูญพันธุ์ และสถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่ในช่วงอันตราย ซึ่งคำพูดดังกล่าวส่งผลกระทบกับพรรคและทุกคนในพรรค อีกทั้ง มันแปลกตรงที่เขาเชียร์นายพีระพันธุ์ และกล่าวหาคนอื่น ทั้งที่จริง ม.จ.จุลเจิมดีกับพวกเรา และเราให้ความเคารพนับถือเขามาตลอด แต่เที่ยวนี้แปลก ดังนั้น ตนร่างจดหมายถึง ม.จ.จุลเจิม เพื่อให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมาไม่เป็นความจริง พรรคเราเชิดชูชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างมั่นคงทั้งในนโยบายและทางปฏิบัติ ดังนั้น การที่กล่าวหาว่าถ้าเลือกคนอื่น หรือนายกรณ์ หรือนายอภิรักษ์จะมีปัญหา มันไม่ยุติธรรมกับบุคคลเหล่านี้
เมื่อถามว่านายพีระพันธุ์เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่กลัวภายนอกแทรกแซง แต่กลัวภายในมากกว่า นายชวน กล่าวว่า ภายในเป็นเรื่องคนในพรรค คนในพรรคเลือกใครเป็นสิทธิ์ของเขาไม่ใช่การแทรกแซง แต่คนภายนอกไม่มีสิทธิ์และเป็นเรื่องที่น่ากลัว
เมื่อถามถึงความเป็นเอกภาพของพรรค นายชวน กล่าวว่า การทำอะไรตรงไปตรงมาจะดีที่สุด แต่ถ้าปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น วันข้างหน้าจะมีปัญหาลามมา บอกเขาแล้วว่าถ้าเราปล่อยให้มีการใช้เงินหรือวิธีที่ผิดหลักการของพรรค วันหลังคงต้องประมูล โดยส่วนตัวต่อต้านการซื้อเสียงมาตลอด เราไปต่อต้านข้างนอก แต่เราปล่อยให้ทำในพรรคโดยไม่สนใจก็จะผิดแนวทางของเรา
นายชวน ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าตนเองโทรศัพท์ถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า ตนไม่มีการโทรศัพท์ไปคุย แต่ได้โทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อถามถึงข่าวที่ว่ามีเงินผ่านมาทางคนของ กทม.บางคนนั้น เป็นจริงหรือไม่ ซึ่งผู้ว่าฯกทม.บอกว่าไม่มีข้อมูลเรื่องนี้.
