โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ชมพู่ ก่อนบ่าย เล่านาทีคลอด น้องธารา บอย พร้อมรับมือภรรยามาม่าบลู

ไทยรัฐออนไลน์ - บันเทิง

อัพเดต 27 ม.ค. 2563 เวลา 13.06 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. 2563 เวลา 13.06 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

เป็นเรื่องราวดีๆ ของวงการบันเทิง เมื่อนักแสดงตลก-พิธีกรสาว ชมพู่ ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์ หรือชมพู่ ก่อนบ่าย คลอดลูกชาย น้องธารา ด.ช.กวินท์ธรรศ สุวัชราธนากิตติ์ เมื่อเวลา 08.05 น. ณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ซึ่งชื่อ “กวินท์ธรรศ” แปลว่า นักกวีผู้ยิ่งใหญ่ โดยมี บอย วัชรพงศ์ พลเมืองดี สามี คอยให้กำลังใจภรรยาตลอด

ล่าสุด คุณแม่มือใหม่อย่าง ชมพู่ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมหนุ่มบอย สามีสุดที่รัก พร้อมทั้งเปิดใจเล่าประสบการณ์ที่คลอดลูกชายคนแรก รวมทั้งเผยถึงภาวะมาม่าบลู โดยมีคุณสามีคอยเป็นกำลังใจอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างกันเลยทีเดียว

เป็นยังไงบ้าง วันนี้ก็วันที่ 3 แล้ว?
ชมพู่ : ใช่ค่ะ ก็จริงๆ แล้วแม่คนอื่นก็ต้องดูแลกันหน่อย แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบนอนเตียงนานๆ อยากลุกเดินไวๆ เมื่อวานนี้ก็มีสภาพพอพนักงานถอดสายสวนฉี่ แม่ก็อยากเดินเลย เมื่อวานก็เดินออกมาจากห้องจะเดินไปหาลูกที่ห้องเนิร์สเซอรี่ค่ะ คุณพยาบาลก็บอกคุณชมพู่อย่าเพิ่งเดิน ไม่มีใครเขาเดินกันนะคะ แต่เราก็พยายามรับแขกด้วย เมื่อวานเพื่อนมาหาเยอะ ตอนรับแขกด้วย เดินเยอะเกร็งตัวถ่ายรูป มันก็เลยระบมหน่อยวันนี้ วันนี้รู้สึกระบมๆ นิดหน่อย

ลูกเป็นไงบ้าง?
บอย: ลูกแข็งแรงดี เค้าบอกว่าเหมือนชมพู่ พยาบาลบอกว่าหน้าเด็กเปลี่ยนทุกวัน พยายามลุ้นให้ลูกหน้าเหมือนตัวเองบ้าง
ชมพู่ : มีแต่คนบอกหน้าเหมือนชมพู่ เดี๋ยวต้องลุ้นอีกทีว่าลูกหน้าเหมือนใคร แต่เราก็สบายใจ และออกมาวันแรกหน้าไม่เหมือนฝรั่งก็โอเคแล้ว (หัวเราะ)

คลอดเองหรือผ่าคลอด?
ชมพู่ : ตอนแรกตั้งใจจะคลอดเองค่ะ แต่ด้วยตารางงานก็ผ่าคลอดก็สะดวกกว่า เมื่อวันที่ 25 ตอน 08.05 น. ก็เลยผ่าคลอดออกมา

อันนี้เป็นฤกษ์เองหรือว่ายังไง?
ชมพู่ : เราตั้งไว้ตอน 8 โมงอะไรก็ได้ประมาณสัก 8 โมง แต่ขั้นตอนการผ่าตัดหมอบอกว่าพอลงมีด 8 โมงปุ๊บ ไม่เกิน 5 นาทีเค้าเอาน้องออกมาได้ละ แต่จะเสียเวลาที่เมื่อวานนี้ที่ตื่นเต้นเยอะๆ เลยก็คือตอนบล็อกหลัง วันแรกที่คนเป็นแม่โดนเข็นเข้าไปและเห็นห้องผ่าตัด และเค้าก็บอกว่าขั้นตอนที่เจ็บที่สุดของคุณชมพู่ก็คือฉีดยาชา และอีกขั้นตอนเหมือนเค้าสวนท่ออะไรเข้าไปที่หลังเพื่อให้เราชาอะไรแบบนี้ค่ะ คือตอนนั้นใจเต้นมาก ตื่นเต้นมาก ไม่เคยตื่นเต้นมาก่อน

พอเริ่มชา และเค้าให้คุณพ่อเข้ามาได้ก็ใจชื้นหน่อย เพราะตอนแรกกลัวเค้าจะไม่เข้ามา เพราะเค้ากลัวเลือดกลัวเข็ม และพอหมออธิบายว่ามันจะเห็นเลือดนะ มันจะเห็นสะท้อนโคมไฟนะ ตอนแรกเค้าก็ไม่รู้จะเข้ารึเปล่า สรุปก็เข้า มันจะมีม่านกั้น เราก็จะรู้สึกตั้งแต่ใต้หน้าอกขึ้นมาด้านบนมือเรากระดิกได้ เค้าก็มาจับมืออยู่ข้างๆ เราก็รู้สึกใจชื้นขึ้นหน่อยค่ะ เราจะรู้สึกแค่ตัวเขย่า ทางแพทย์จะเหมือนกรีดเข้ามาและก็ดันสักพักเราก็จะได้ยินเสียงลูกละอุแว้ๆ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

วินาทีที่ได้ยินเสียงลูกเป็นยังไงบ้าง?
บอย: สำหรับผมดีใจแบบบอกไม่ถูกอะครับ แบบว่าสิ่งที่เรารอคอยมา 9 เดือนเนี่ยมันเห็นแล้ว พอหมอเค้าเอาเด็กออกมาเนี่ย เค้าทำความสะอาดเลยครับ คือทางโรงพยาบาลที่เนี่ยเค้าค่อนข้างตรวจละเอียดอะครับ เรารออยู่ประมาณ 10-20 นาที ว่าเมื่อไหร่เราจะได้เห็นหน้าลูก ผมก็พยายามมองว่าลูกเราเป็นอะไรรึเปล่า พยายามถามหมอว่าลูกผมโอเคไหม พอหมอบอกว่ายินดีด้วยนะ เด็กสมบูรณ์ทุกอย่าง แค่จะติดหายใจเร็ว ก็ต้องให้ออกซิเจนนิดหน่อย เราก็ใจชื้นละ
ชมพู่ : นี่ขนาดพูดยังรู้สึกอยู่เลยหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่เนอะ ตอนได้ยินเสียงแบบหันมามองตาพร้อมกัน จับมือกันอยู่และมองตากันแบบได้ยินเสียงแล้ว เค้ามาแล้วนะ และคือคิดเหมือนกันอย่าให้หมอเดินออกมาบอกว่าลูกเป็นอะไรเลย เพราะตอนอัลตร้าซาวนด์มันไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ เราก็แค่คาดหวังว่าออกมาโค้งสุดท้ายอย่าให้มันมีอะไรสำหรับคู่เราค่ะ สรุปนั่นแหละอย่างที่บอก หมอบอกว่าแข็งแรง ร้องเสียงดัง น้ำหนัก 2,820 กรัม พอรู้ว่าไม่เป็นอะไรมากก็ใจชื้น

และก็มีแค่ตอนที่หมอตรวจนาน และออกมาบอกว่าตอนนี้น้องยังมาหาคุณแม่ไม่ได้นะ เราก็อุ๊ย…เอาละ ลูกเราเป็นอะไรรึเปล่า ต้องเข้าตู้อบหรอ หรือว่าต้องสอดสายอะไรรึเปล่า เค้าบอกว่าปกติเพราะว่าเราผ่าที่วีคที่ 38 นิดๆ อาจจะมีแบบหายใจเร็ว จะต้องออกมาปรับตัว เหมือนเค้าอยู่ข้างในเหมือนหายใจในน้ำ พอออกมาก็เลยต้องปรับตัวก็เลยต้องไปอยู่ในตู้ออกซิเจน ไม่เชิงตู้อบ แค่ให้ออกซิเจนเฉยๆ ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ดีขึ้น ตอนนี้อัปเดตล่าสุดลูกมีพังผืดใต้ลิ้นนิดหน่อย เค้าบอกว่าเกิดได้กับเด็กแรกเกิดทั่วไป วิธีแก้คือเค้าจะมีการตัดใต้ลิ้นเพื่อป้องกัน ตอนโตขึ้นก็จะพูดชัด กับเวลากินนมก็จะเข้าฐานได้ดีขึ้น

ก็คือผ่านไปเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?
ชมพู่ : เย็นนี้ ไม่กล้าดู เมื่อวานนี้ไปดูลูกฉีดยาไวรัสตับอักเสบ พอลูกร้องก็ร้องไห้กับลูกไปด้วย เข้าใจเลยอะ หัวอกคนเป็นแม่เนอะ

กังวลไหม?
ชมพู่ : กังวลค่ะ แต่ก็เป็นการผ่าตัดที่เราเข้าไปดูไม่ได้อยู่แล้วแหละ และก็ไม่อยากดู ไม่กล้าดูด้วยแหละ เพราะเดี๋ยวพอเค้าร้อง แค่เมื่อวานเค้าร้องเราก็สงสารใจจะขาด
บอย : กลัวลูกเจ็บมากกว่า คุณหมอบอกว่าตอนนี้เด็กเค้ายังไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าเรายิ่งทำวันนี้มันยิ่งหายเร็ว
ชมพู่ : เมื่อวานเค้าฉีดยาเค้าร้องแป๊บเดียว แล้วเค้าก็นิ่งเลย

น้องจะสามารถกินนมแม่ได้ปกติไหม?
ชมพู่ : ได้ปกติค่ะ เลือดจะไหลประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมง และของชมพู่โชคดีอย่างคือวันแรกที่ผ่าปุ๊บ พอคั้นน้ำนมมา นมมาเลย เออ…โชคดี เรามันคนบ้ากินขิง กินหัวปลีตั้งแต่ยังไม่คลอด ช่วยได้จริงๆ นะ ใครกำลังท้องอยู่ช่วยได้จริงๆ นะ ตอนนี้อัปเดตอาการคุณแม่คือลูกกินนมแรงมาก ตอนนี้หัวนมแตกเรียบร้อย เจ็บมาก แม่มาช่วยเลี้ยงอยู่บนห้องเดินมาบอกเลยว่า เป็นไงล่ะเด็กๆ ก็กินนมแม่แบบนี้ ก็เข้าใจเลยว่าการที่ลูกกินนมแม่แรงๆ นี้มันต้องทน จะมีพยาบาลคอยช่วยประคบช่วยทายาให้

ออกจากโรงพยาบาลวันไหน?
ชมพู่ : เราออกวันที่ 30 เนอะ

ออกพร้อมกันเลยไหมทั้งแม่ทั้งลูก?
ชมพู่ : พร้อมกัน แต่ตอนนี้กำลังคิดๆ อยู่ว่าลูกเพิ่งวันที่ 2 ร้องโยเย ตอนแรกคิดว่าเป็นเด็กนอนนิ่งๆ และก็ยังคิดเลยลูกหลับตลอดเลยเลี้ยงง่ายจังเลยเนอะ พ่อเนอะ สบายละ โอโห เมื่อวานเท่านั้นแหละ พอไม่ได้กินนะ ไม่ได้ดั่งใจ ร้องจนทำไรไม่ถูกเลยอะ เมื่อวานช่วงเย็นจำได้เลยร้องไห้ และพ่อถามเป็นไร บอกอย่าเพิ่งถาม ปล่อยมันก่อน เข้าใจหัวอกแม่หลังคลอดเลยอะ

เป็นอาการมาม่าบลู?
ชมพู่: เมื่อวานมีหน่อยนึง คืออยู่ดีๆ ก็ร้องเพราะความเหนื่อยด้วย นอนน้อย เจ็บหัวนมด้วย และก็ยังไม่เข้าใจลูก และการเอาลูกเข้าเต้า ยังเรียนกันอยู่เลย มันไม่ใช่การเอาปากลูกมาอยู่ที่นมแล้วกินได้เลย มันต้องมีจังหวะ ต้องให้พอดีปาก และพอเราทำไม่ถูกเค้าก็ร้อง เมื่อวานพยาบาลปล่อยเราอยู่กัน 2 คน ร้องไห้ หนูก็ทำไม่ถูกก็เลยกดเรียกพยาบาลมาช่วย

ถามคุณหมอก่อนไหม เผื่อว่าเราจะเป็น?
ชมพู่ : หมอบอกแล้วเค้าก็เตือนคุณพ่อไว้อยู่แล้วค่ะ
บอย : ให้ระวังแม่ และก็พยายามให้กำลังใจมากกว่า ให้อยู่ข้างๆ เค้าตลอดเวลา ลูกมาเราก็จะอยู่กับเค้าช่วยเค้าทุกอย่าง ให้กำลังใจ กอด ทำทุกอย่างที่จะทำได้ครับ

แล้วคุณพ่อเตรียมรับมือยังไงบ้าง?
บอย : ก็แกล้งเบลอไปอะครับ ก็เข้าใจอะครับ อย่างเมื่อวานเราเห็นแล้วว่าอาการเค้าเริ่มไม่ดี พอเราถามเนี่ยเราก็เริ่มนอยด์ๆ เราจะช่วยยังไงดี ก็พยายามอยู่ข้างๆ เค้าตลอด ก็ขอให้ลูกแข็งแรง

ชมพู่ให้น้องใช้นามสกุลตัวเอง?
ชมพู่ : เรื่องของเรื่องคือหนูอะเป็นนามสกุลตั้งขึ้นมาใหม่ในครอบครัวก็คือเปลี่ยนนามสกุลทั้งบ้าน ตระกูลนี้มีแค่ 5 คนเท่านั้น ยาย พ่อ แม่ หนู น้องชาย พ่อเค้าก็เลยเห็นว่าเราเนี่ยเป็นนามสกุลตั้งใหม่และมีลูกชาย เลยอยากให้ช่วยสืบสกุลไรงี้ เค้าก็เลยบอกว่าใช้นามสกุลเรามั้ย เค้าก็อนุญาตเรา เราก็เออ ใช้ฝั่งเราก็ดี จะได้มีลูกชายสืบสกุลต่อไป

วางแผนอนาคตการเลี้ยงลูกไว้ยังไงบ้าง?
ชมพู่ : เมื่อกี้อีฟ (พุทธธิดา ศิระฉายา) มา คุยก่อนลงมาแถลงข่าว เค้าคลอดที่เดียวกัน หมอคนเดียวกัน ภาวะเดียวกัน นั่งร้องไห้เหมือนกันเมื่อกี้นี้ เค้าก็เลยให้คำแนะนำ ถ้าเรายังไม่ชินยังปรับตัวไม่ได้ กลับบ้านไปกลัวยังไม่ชินก็ให้เราดีลพยาบาลไว้ ให้กลับไปช่วยเราบ้างตอนกลางคืน พอเราเข้าที่เข้าทางก็อาจจะแบบไม่ต้องละ เราก็เออ ก็ดีเหมือนกัน เพราะมือใหม่มากเลย พอลูกร้องทำอะไรไม่ถูก เลยวางแผนไว้คร่าวๆ ประมาณนี้นะ แต่ก็รอดูอีก 3 วันอาจจะเก่งขึ้น (หัวเราะ)

เรื่องงานล่ะ?
ชมพู่ : งานเหรอคะ ก่อนหน้าเข้าโรงพยาบาล เราก็ทำจนวินาทีสุดท้าย เพราะสามีบอกว่าถ้าอยู่บ้านก็มาลงที่สามี สามีบอกตามใจๆ เพราะเวลาเราออกไปข้างนอกได้เจอคนได้คุยได้เล่น เราก็จะมีความสุข ไม่เครียด เรื่องงานเราก็วางไว้ละว่าเราจะกลับไปเมื่อไหร่บอกเค้าไว้ละก็น่าจะประมาณ 1 เดือน เพราะงานชมพู่ไม่ต้องห่วงเลย ไม่ได้รับละคร ไม่ได้ไปออกกลางแจ้งหนักๆ ก็มีแค่อ่านข่าวชั่วโมง ครึ่งชั่วโมงเข้าบ้าน

หน้าที่เลี้ยงน้องคือคุณพ่อ?
ชมพู่ : คุณพ่อทำงานอยู่บ้านอยู่แล้วไง ก็เลี้ยงลูกที่บ้านไป ไหวไหม
บอย : ก็ผมยังไม่เก่ง ก็ฝึกอยู่ อยากอยู่กับเค้า อยากใช้เวลากับเค้าให้นานๆ ก็พยายามจะเลี้ยงเองให้ได้ ส่วนผมจะแคร์อยากให้ลูกกินนมแม่มากกว่า
ชมพู่ : ใช่ ก็คิดว่าอยากให้เค้าเข้าเต้าได้มากที่สุด จะไม่ปั๊มสต๊อกเยอะ เพราะนมที่ทิ้งไว้นานๆ อาจจะไม่ดีเท่าใหม่ๆ พ่อแม่เซ้นซิทีฟพอกัน นั่งร้องไห้ปลอบกันเอง

คนที่ 2 ล่ะ ต่อเลยไหม?
ชมพู่ : อยากมีลูกสาวอีกคนนึง เรารู้สึกว่าลูกสาวกับเรามันน่าจะเป็นเพื่อนช็อปปิ้ง เม้าท์มอย อาจจะเว้น 3 ปี รอให้ลูกคนนี้เข้าโรงเรียนก่อน แต่ถ้าเค้ายังไม่พร้อมไม่เป็นไร เดี๋ยวเราดูพ่อ (หัวเราะ)

จะให้ลูกอีกคนใช้นามสกุลพี่ชมพู่หรือทางพ่อ?
ชมพู่ : ลูกสาวแล้วแต่
บอย : บ้านผมตระกูลใหญ่อยู่แล้ว ไม่ได้ซีเรียส

คนที่ 2 ยังไม่ได้วางแผนใช่ไหม?
ชมพู่ : ยังไม่ได้วางแผนค่ะ
บอย : ยังไม่ได้วางแผนว่าจะมีรึเปล่า
ชมพู่ : แต่คิดเอาไว้ว่า เออ ถ้ามีลูกสาวอีกคนคงดี แต่ว่าเอาให้เก่งตอนนี้ก่อน

กลับบ้านไปคิดว่าจะเอาอยู่ไหม?
บอย : หมายถึงเอาลูกหรืออะไร (หัวเราะ)
ชมพู่ : อันนั้นรอให้แผลหายก่อน (หัวเราะ) คิดว่า 3 วันนี้ที่ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล ยังไม่เก่งนะ ยังไม่คล่องจริงๆ ก็คงต้องขอพึ่งพยาบาลที่เค้าชำนาญก่อน เพราะพี่เลี้ยงก็คงจะชินกับลูกตอน 3-4 ขวบ แต่ถ้าพยาบาลเค้าจะเข้าใจเด็กน้อยเข้าใจภาวะคุณแม่ เบื้องต้นก็น่าจะสักอาทิตย์นึง.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0