ตร.จ่อออกหมายจับ แจ้ง 3 ข้อหาผู้เกี่ยวข้องคดีลัลลาเบล ขณะที่ผลชันสูตรพบเสียชีวิตจากดื่มสุราเกินขนาด…
มีรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนในคดีการเสียชีวิตของ นางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี หรือ “ลัลลาเบล” พริตตี้สาวสวย ได้รับรายงานผลทางนิติวิทยาศาสตร์แล้วจากโรงพยาบาลจุฬาฯ โดยผลระบุว่า เสียชีวิตจากการดื่มสุรา โดยพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด สูงถึง 418 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังไม่พบสารเสพติดในร่างกายและดีเอ็นเอหรือสารคัดหลั่งของผู้อื่นในร่างกาย โดยหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ทั้งหมด 3 ข้อหา ประกอบด้วย
ข้อหาที่ 1 ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย หรือรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 290 มาตรา 297 หรือมาตรา 298
ข้อหาที่ 2 พาไปเพื่อกระทำการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลที่อายุมากกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อหาที่ 3 กระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
สำหรับคำว่า “อนาจาร” มีความหมายในทางกฎหมายว่า เป็นการกระทำต่อเนื้อตัวบุคคลที่ไม่สมควรทางเพศ ซึ่งไม่ต้องถึงขั้นร่วมประเวณีหรือสำเร็จความใคร่ แต่รวมถึงการกระทำให้อับอายขายหน้าในทางเพศด้วย ที่ผ่านมาเคยมีคำพิพากษาศาลฎีการะบุว่า การที่ฝ่ายชายกอดเอว จับมือ และดึงแขนฝ่ายหญิงต่อหน้าบุคคลอื่น ก็เข้าข่ายอนาจารแล้ว.