เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2561 นายศักดิ์ชัย แน่นอุดรและ น.ส.สโรชา แน่นอุดร ลูกสาว ผู้เสียหาย ยืนยันภาพพลเรือนทั้ง 4 คน จากทะเบียนราษฎร์ เป็นบุคคลนี้ ร่วมกับตำรวจเข้าไปตรวจค้นบ้านก่อนยัดยาเสพติด และเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี
นายศักดิ์ชัย ระบุว่าพลเรือนทั้ง 4 คน เป็นผู้ร่วมก่อเหตุจริง ขณะนี้ได้ชี้ภาพยืนยันตัวบุคคลผู้ที่ก่อเหตุทั้ง 10 คน แบ่งเป็นตำรวจ 6 นาย พลเรือน 4 คน ครบแล้ว จึงคลายความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินคดีลงได้ส่วนหนึ่ง ส่วนประเด็นว่าลูกสาวเคยมีพฤติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ตัวเองยืนยันว่าไม่เคยมี
ขณะที่ พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ หัวหน้าคณะชุดสอบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า หลังจากนำภาพผู้ก่อเหตุทั้ง 10 คนให้ผู้เสียหายชี้ตัว ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการเรียกพลเรือนมาสอบปากคำ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง หากยังไม่มาตามกำหนดภายในวันพรุ่งนี้ (19ก.ย.2561) จะพิจารณาขออนุมัติออกหมายจับ แต่หากใครมอบตัว และรับสารภาพ จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสภาพทันที ส่วนตำรวจ 6 นายได้เรียกตัวสอบปากคำแล้ว ทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ส่วนประเด็นจดหมายขู่ฆ่า นายศักดิ์ ขณะนี้ตำตรวจได้ส่งไปให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายนิ้วมือแฝงแล้ว ต้องรอผลที่แน่ชัด
ทีมข่าวพีพีทีวี ยังได้พูดคุยกับตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกกลุ่มตำรวจและพลเรือนชุดเดียวกับ นายศักดิ์ชัย ยัดยาเสพติด และเรียกรับเงิน โดยตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า ทุกครั้ง ดาบตำรวจคนหนึ่งในแก๊ง มักเข้ามาค้นบ้าน โดยไม่มีการโชว์หมายค้น จากนั้นจะตรวจปัสสาวะ เมื่อพบว่าปัสสาวะสีม่วงก็จะนำตัวไปที่ห้องสืบ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 วัยรุ่นในชุมชนบางคนถูกทำร้ายร่างกาย เพื่อให้รับสารภาพ ก่อนจะถูกยื่นข้อเสนอให้จ่ายเงิน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี บางคนจะถูกให้เป็นคนล่อซื้อยาเสพติดกับเอเย่นต์รายย่อย เพื่อเป็นช่องทางให้กลุ่มผู้ก่อเหตุสามารถเรียกรับเงินต่อได้ ซึ่งจากพฤติกรรมของตำรวจชุดนี้ ทำให้ชาวบ้านในชุมชน เรียกว่า “แก๊งไอ้โหด”
กลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้ พร้อมรวมกลุ่มให้ข้อมูล ในการเอาผิดกับตำรวจและพลเรือนที่ก่อเหตุ สำหรับกรณีของตำรวจที่ประพฤติมิชอบ เช่นการ ยัดยาเสพติด หรือพฤติกรรมการรีดไถเงิน พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า กระบวนการทำงานใช้เวลา ชั้นกรรมการสอบข้อเท็จจริง 30 วัน ก่อนสามารถขยายไปได้เรื่อยๆ อีกครั้งละ 30 วัน ที่ผ่านมาผลการสอบ "ไม่พบมูลการกระทำผิด" และหากในระหว่างการสอบข้อเท็จจริง พยานหลักฐานไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการรับส่วยสินบน พบมีการเสนอยุติเรื่อง ถึงร้อยละ 99
อ่านเพิ่มเติม :พ่อค้าส้มตำอ้างถูกตำรวจยัดยารีดไถ่เงิน 5 หมื่น
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>https://www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้