จากกรณีที่ ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขับรถกระบะอีซูซุ สีเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสียหลักข้ามเลนพุ่งชนรถพยาบาลของ รพ.ประโคนชัย บนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จนส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเขาคอก ที่นั่งดูแลหญิงตั้งครรภ์ภายในรถเสียชีวิต น.ส.จรวยพร ปาประโคน พยาบาลวิชาชีพ รพ.ประโคนชัย บาดเจ็บสาหัส ทั้งยังมีคนขับรถรีเฟอร์ หญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อและญาติได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. พ.ต.อ.สุรชัย สังขพัฒน์ รองผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า การสอบสวนคืบหน้าไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือสอบปากคำเจ้าหน้าที่และเยาวชนที่บาดเจ็บ และทางเจ้าหน้าที่จะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง คาดว่า จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เดชา คู่กรณีปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ และเจาะเลือดในวันเกิดเหตุนั้น ยืนยันไม่ได้หนักใจเพราะคำให้การของพยานหลายปากคำ สามารถนำไปเป็นพยานในชั้นศาลได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้ตั้งข้อหาเมาแล้วขับไปแล้ว ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนที่มีคำสั่งย้าย ร.ต.อ.เดชา ออกนอกพื้นที่นั้น ก็เพื่อความสบายใจและความเป็นธรรมกับคู่กรณี
นายฉัตรชัย แสวงตน พี่เขยของ น.ส.สุดารัตน์ พยาบาลวิชาชีพที่เสียชีวิต กล่าวว่า หลังจากมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนชุดใหม่ และมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก ก็รู้สึกมีความเชื่อมั่นใจการทำคดีของทางตำรวจมากขึ้น แต่ก็ยังมีความกังวลกรณีที่ ร.ต.อ.คู่กรณีไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ในวันเกิดเหตุ จะทำให้มีผลต่อหลักฐานที่จะต่อสู้ในคดีหรือไม่ ก็อยากฝากให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวและผู้เสียชีวิตด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาลัยพยาบาลสาวจิตอาสา รถคว่ำดับขณะรีเฟอร์ผู้ป่วย…