โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"จุรินทร์" สั่งปลัดพาณิชย์ ตั้ง กรอ.พาณิชย์ แก้ปัญหาส่งออก พร้อมเปิดเวทีรับฟังปัญหาด้วย

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 19 ก.ค. 2562 เวลา 09.50 น. • เผยแพร่ 19 ก.ค. 2562 เวลา 09.47 น.
60042

“จุรินทร์” สั่งปลัดพาณิชย์ ตั้ง กรอ.พาณิชย์ แก้ปัญหาส่งออก รวมไปถึงปัจจัยที่กระทบทั้งค่าเงินบาท ค่าแรง พร้อมเปิดเวทีนี้ให้กับผู้ส่งออกได้บอกปัญหา โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมแก้ไขทันทีหากอยู่ในอำนาจที่ดู ส่วนเกินอำนาจก็พร้อมหารือกับทุกหน่วยงานต่อไป

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เร่งรัดจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ด้วย ซึ่งมีตนเป็นประธาน เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเสนอแนะปัญหาและอุปสรรคด้านการส่งออก เพื่อผลักดันให้การส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวได้มากขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถจัดตั้งคณะกรรมการฯ ให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องให้เวลาปลัดกระทรวงพาณิชย์ในการจัดตั้ง แต่ในความตั้งใจแล้วว่าจะให้มีการประชุม กรอ.พาณิชย์ทุกเดือน และน่าจะประชุมนัดแรกได้ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ภาคเอกชนใช้เวทีนี้เปิดรับฟังว่ามีปัญหาด้านการส่งออกอย่างไร และมีอะไรที่ต้องการให้กระทรวงช่วยเหลือบ้าง ซึ่งอะไรที่กระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการแก้ไขเองได้ก็จะเดินหน้าทันที แต่ถ้าเป็นเรื่องของกระทรวงอื่นที่เกินอำนาจของกระทรวงก็พร้อมที่จะประสานงานไปกับหน่วยงานอื่นให้ รวมถึงถ้าจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบก็จะดำเนินการให้ เพื่อทำให้การส่งออกขยายตัวให้ได้ เพราะภาคเอกชนเป็นผู้ทำตลาด ภาครัฐมีหน้าที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

สำหรับปัญหาของภาคการส่งออกไทยในขณะนี้ มีทั้งเรื่องของผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่ามากขึ้น ส่วนเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ที่เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งหากมีผลกระทบต่อผู้ส่งออก โดยเฉพาะขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ก็จะนำเข้าหารือในกรอ.พาณิชย์ ต่อไป ซึ่งต้องรับฟังปัญหาจากภาคเอกชนด้วยว่าได้รับผลกระทบอย่างไรในประเด็นดังกล่าวนี้

นอกจากนี้ การขยายตัวเลขการส่งออกให้เห็นเป็นรูปธรรมอีกวิธีหนึ่งที่จะให้เกิดผลอย่างรวดเร็ว คือ การผลักดันการค้าชายแดน ซึ่งจะต้องร่วมมือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการค้าชายแดนเป้าหมาย เช่น ไทย-มาเลเซีย ไทย-เมียนมา ไทย-กัมพูชา และไทย-สปป.ลาว ที่จะเร่งรัดการส่งออกให้เติบโต

ส่วนเป้าหมายมูลค่าการส่งออกปีนี้ที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ที่ 3% จากปี 61 นั้น คงต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนอีกครั้งว่าจะผลักดันการส่งออกอย่างไร แต่ขณะนี้ไม่อยากให้พูดว่าจะมีการทบทวนใหม่หรือไม่ เพียงแต่ต้องการทำงานผลักดันการส่งออกให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0