นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงราคาปาล์มน้ำมันสูง จาก กก. ละ 2.30 บาท เป็น 7.70 บาท ว่า ราคาปาล์มที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นมาจากนโยบายประกันรายได้ปาล์ม และการนำน้ำมันปาล์มไปใช้ในการผลิตน้ำมันดีเซลบี 10 และเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่จะไม่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มขวดเพราะกระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน ตรึงราคานำมันปาล์มขวดขายไม่ให้เกินราคาลิตรละ 42 บาท ต่อขวด ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ยังมีทางเลือกในการซื้อน้ำมันขวดเพื่อบริโภค เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว ประกอบกับยังมีสต๊อกน้ำมันปาล์มใช้ได้อย่างน้อยอีก1เดือน
สำหรับปัญหาการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันปาล์มนั้น รัฐบาลมีมาตรการคุมเข้มการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยห้ามนำเข้าทางบก แต่ให้นำเข้าได้ผ่าน 3 ท่าเรือเท่านั้น คือ ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือมาบตาพุด ส่วนการนำเข้าผ่านด่าน ให้ผ่านได้เฉพาะด่านท่าเรือกรุงเทพเท่านั้น ขณะที่การส่งออกไปยังประเทศที่สาม ให้ผ่านได้ 3 ด่าน คือ ด่านแม่สอด ด่านสระแก้ว ด่านหนองคาย และคาดว่าภายในเดือนก.พ.นี้ปริมาณปาล์มในประเทศ ผลผลิตจะออกมามาก ราคาจะอ่อนตัวลง
“ในช่วงนี้ที่น้ำมันปาล์มราคาแพง สามารถที่จะใช้น้ำมันอื่นทดแทนได้ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง เพราะต้นทุนไม่ได้เพิ่มขึ้น จึงทำให้มีราคาถูก”