ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตคืออะไร
เพียงด้วยการแบมือขอสตางค์พ่อแม่แล้วได้มา
ไม่มีใครเซ็ตเป้าหมายชีวิตให้ตัวเองได้
เพียงด้วยการอยากทำอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่งวูบ ๆ วาบ ๆ
ไม่มีใครรู้ศักยภาพทั้งหมดของตนเอง
เพียงด้วยการเก่งบางอย่างมากกว่าคนอื่น
ไม่มีใครรู้จักอิทธิพลของชีวิตตนที่มีต่อโลก
เพียงเพราะรู้จักคุ้นเคยและมีบทบาทกับคนกลุ่มเล็ก
ไม่มีใครเห็นภาพเต็มของชีวิต
เพียงด้วยการตัดสินชีวิตตามอารมณ์บางช่วง บางวัย
คนบางคน
ได้ชิ้นส่วนประกอบของชีวิตมาจนเห็นภาพเต็ม
ด้วยวัยไม่ถึง ๓๐
เช่น อายุน้อยร้อยล้าน คุมคนงานเป็นพัน
ขณะที่อีกหลายคน
กว่าจะได้ส่วนประกอบครบภาพเต็ม
รู้สึกเป็นตัวเป็นตน มีชีวิตชีวาเต็มเกียรติภูมิ
ก็เมื่อวัยล่วงผ่านไปถึง ๕๐
เช่น นักต่อสู้เพื่อสร้างสังคมที่ต้องการ
คนบางคน
มีความสามารถด้านเดียว
แต่ทำได้ดีจริง ดีกว่าใคร ก็เด่นนำเขา
โดยงัดเอาความสามารถด้านเดียวนั้นมาโชว์
ขณะที่อีกหลายคน
มีความสามารถหลายด้าน
แต่ดีไม่ได้สุด ก็เป็นรองใครต่อใครหลายขั้น
กว่าจะดีเด่น ลืมตาอ้าปากได้อย่างเป็นทางการ
ก็เมื่อถึงจุดของการได้ไอเดีย
รวมความสามารถสะเปะสะปะทั้งหมด
ให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ
ถ้าอยากได้ความรู้สึกเต็มชีวิต
ถ้าอยากตั้งเป้าหมายให้ชัด
คุณต้องรู้ว่าตัวเองเป็นพวกไหน
ระหว่าง เจอสิ่งที่อยู่กับมัน
ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงก่อนใคร
เช่น พวกนักประดิษฐ์ ศิลปินสร้างไอเดีย
หรือต้องใช้ความสามารถหลาย ๆ ด้าน
ใช้เวลาในการเรียนรู้หลายสิ่ง
เพื่อประกอบร่างขึ้นมาเต็มตัวเต็มตน
เช่น นักบริหารที่สร้างเอกลักษณ์ให้ตนเอง
หลังจากทำงานร่วมกับคนหมู่มากมานาน ๆ
จุดสำคัญสูงสุด
คือ อย่ามองชีวิตแต่ละขณะเป็นความสูญเปล่า
อย่ามองแบบคนเร่งหาทางออกด่วนๆขณะหลงอยู่กลางป่า
จงอ่านเกมชีวิตให้ออกว่า
คนที่ค้นพบตัวเอง
คือคนที่ต่อจิ๊กซอว์ชีวิตสำเร็จ
จิ๊กซอว์ชีวิต คือชีวิตแต่ละวัน
จิ๊กซอว์ชีวิต จึงมีอยู่นับพันนับหมื่นชิ้น
แต่ละชิ้นต้องแลกมา
ด้วยการผ่านร้อนผ่านหนาว
ลองผิดจนรู้ว่า
ประกอบท่าไหนจึงจะถูก
แล้วก็ประกอบถูกจนไหวตัวทัน
เมื่อทำท่าว่าจะต่อผิด!