"จิลล์" บอกไม่อยากพูดถึงสาเหตุเลิก "นัท" แต่ยืนยันเลิกกันนานแล้ว และไม่ได้ติดต่อพูดคุยกันเลย งงที่อยู่ก็กลายเป็นประเด็นและมีคนถามเยอะมาก บอกที่เลิกกันฝั่งตนไม่มีเรื่องมือที่สามแน่นอน แต่ข่าวที่ว่าฝ่ายชายเลิกเพราะปันใจให้ "ชิงชิง" อันนี้ตนไม่แน่ใจ และแอบสงสารนักแสดงรุ่นน้องด้วยซ้ำที่โดนคอมเม้นท์แรงๆ ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้ แต่ตอนนี้ตนก็เคลียร์กับคนใหม่เรียบร้อย ไม่กระทบความสัมพันธ์ เผยตอนนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเยอะ เชื่อเป็นเอ็ฟเฟ็คจากที่เคยกินยาลดน้ำหนัก
ตอนที่คบกันก็เงียบซะแทบไม่มีใครรู้ สำหรับนักแสดงสาว "จิลล์ โรเจอร์" กับหนุ่ม "นัท อติรุจ สิงหอำพล" ที่ตอนนี้กลับมามีประเด็นด้วยกันอีกครั้ง ตั้งแต่ข่าวที่ว่าหนุ่มนัทออกมาเผยว่าแอบชอบนักแสดงรุ่นน้องอย่าง "ชิงชิง คริษฐา สังสะโอภาส" มานานร่วม 3 ปีแล้ว ซึ่งมันคาบเกี่ยวกับช่วงที่เคยมีข่าวว่าซุ่มคบหาดูใจกับสาวจิลล์อยู่ และล่าสุดได้เจอจิลล์ในงานประกวด Mister Grand Universe Thailand 2019 (รอบสุดท้าย) ณ ลานวิรันด้า ฮอลล์ คริสตัล ปาร์ค ถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เจ้าตัวก็บอกว่าไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว แต่ยืนยันว่าเลิกกันนานแล้วแน่นอน
"จิลล์ขอไม่พูดอะไรดีกว่า จิลล์ขอโฟกัสที่ปัจจุบันแล้วกันค่ะ เพราะได้เลิกรากันไปตั้งนานแล้วค่ะ นัทเขามีมาขอโทษมั้ยเหรอ ไม่มีค่ะ เพราะเราก็ไม่ได้ติดต่อกันมาตั้งแต่เลิกกันแล้ว ถามว่าเลิกกันไม่ถึง 2 ปีอย่างที่เป็นข่าวมั้ย อันนี้จิลล์ขออนุญาตไม่พูดจริงๆ ค่ะ (ยกมืิอไหว้) แต่ก็มีคนมาถามเยอะมากค่ะ (หัวเราะ) งงมาก เราก็อยู่เฉยๆ ตอนนี้จิลล์ก็ผันตัวเองมาทำเบื้องหลัง ทำโปรดักชั่นของตัวเอง เล็กๆ เพิ่งเริ่ม ก็มีคนถามมาเยอะว่าอะไรยังไง เกิดอะไรขึ้น บางคนก็ไม่รู้ว่าคบกัน บางคนที่รู้ก็งงว่าเลิกกันตอนไหน จิลล์ก็บอกว่าจบกันไปนานแล้ว ก็ตามข่าวเลย ไม่มีอะไร แต่ถามว่าจบกันด้วยดีมั้ย ก็ขออนุญาตไม่พูดถึงแล้วกันค่ะ (หัวเราะ) ข่าวว่าเพราะนัทปันใจให้น้อง เลยมาขอเลิกกับเราเหรอคะ อันนี้จิลล์ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ จริงๆ ก็เลิกรากันไปด้วยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย ถึงจะคบกันมานานแล้ว มันก็อาจจะถึงจุดที่ว่าแยกกันดีกว่า"
"เรื่องมือที่สามนี่ ไม่่ทราบค่ะ (หัวเราะ) แต่โดยส่วนตัวจิลล์คือไม่มีค่ะ ถามว่าพอมีชื่อเราไปเกี่ยวมันมีผลกระทบยังไงบ้าง ก็จริงๆ แล้วถ้าพูดถึงคนรอบข้าง จิลล์ก็ค่อนข้างแคร์คนรอบข้างของจิลล์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่าย เวลาที่เขาเจออะไรที่มันรู้สึกว่าเป็นโซเชียลบูลี่ มันเหมือนเป็นการทำร้ายกันมากๆ โดยที่เราอยู่ใต้ดราม่า ก็ค่อนข้างจะคล้อยตามได้ง่ายๆ จิลล์ก็จะคอยบอกว่าไม่มีอะไร อย่าไปคิดมาก อย่าไปอ่านเยอะ เดี๋ยวจะนอยด์กัน ก็เลี่ยงๆ ดีกว่า เรามาใช้ชีวิตแฮปปี้เที่ยวเล่นสนุกสนานดีกว่า ทำงานที่เรารักกันดีกว่า แต่ก็มีเผลอไปอ่านคอมเม้นท์เหมือนกัน เพราะพี่น้องเพื่อนๆ ก็ส่งมาให้ดูเยอะ บางทีก็รู้สึกตลกว่ามันเป็นเรื่องของฝั่งเขา ทำไมมาโยงเราเข้าไปเกี่ยวอีก จริงๆ ตอนที่คบกันก็ไม่ได้ปิดนะคะ แต่ไม่มีใครถามก็เลยไม่ได้บอก แล้วไปอ่านเจอคอมเม้นท์ที่น้องเขาโดนว่า จิลล์รู้สึกว่ามันก็หนักนะสำหรับน้องที่เป็นนักแสดงใหม่ ก็ให้กำลังใจว่าสู้ๆ นะแก ก็คิดสภาพว่าถ้าเป็นเราขึ้นมา ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นข่าวหรือว่ามันไม่ใช่่เรื่องจริง เราก็คงเสียเซลล์เหมือนกัน"
"ก็อยากจะบอกถึงคนที่ยังเข้าใจผิดนะคะ เลิกกันนานแล้วค่ะ ไม่มีอะไร เจอกันก็ทักทายกันได้ค่ะ ไม่มีอะไรที่ต้องผิดใจกันค่ะ อยากจะบอกว่าอย่าไปว่าอะไรเขาเลย เรื่องมันผ่านไปแล้ว ซึ่งถามว่าคนที่คุยด้วยปัจจุบันเขาถามมั้ย จริงๆ แล้วจิลให้ความสำคัญกับเขามากนะคะ ก็ยอมรับว่าจิลมีคนคุยแล้ว จิลก็เล่าให้เขาเลยว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้ๆ ก็จะบอกเขาว่าเธอไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องคิดมาก เขาก็เข้าใจ ก็ไม่ได้กระทบความสัมพันธ์อะไรค่ะ"
บอกผันตัวไปทำเบื้องหลัง เพราะเบื้องหน้าทำไม่ไหว เหตุอ้วนขึ้น เชื่อเกิดจากเอฟเฟ็คยาลดน้ำหนัก
"พูดจริงๆ ตอนนี้มันก็เริ่มอิ่มเหมือนกัน แต่ก็ยังอยากถ่ายละครอยู่นะคะ ไม่ใช่จะทิ้งไปเลย แต่ด้วยเรื่องสัดส่วนของตัวเองที่มันเพิ่มขึ้น (หัวเราะ) ก็ต้องขออภัยหลายๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็นทางค่ายหรือทางผู้ใหญ่ช่อง 7 จิลล์ก็ต้องขออภัยที่ปล่อยตัวเองให้อ้วน แต่ก็พยายามเช็คร่างกายตัวเองว่าทำไมเวลามันลด มันลดได้จริง แต่เวลามันเพิ่มมันโยโย่เอฟเฟ็ค อาจจะเป็นผลกระทบจากเมื่อก่อนจิลล์อาจจะเคยทานยาลดน้ำหนัก แล้วมันเพิ่งมาออกผลตอนนี้ ซึ่งไม่เคยอ้วนขนาดนี้ในชีวิตค่ะ ก็ตกใจเหมือนกัน ก็พยายามเช็คสุขภาพร่างกายของตัวเองว่าจริงๆ แล้วมันเกิดจากอะไร ก็ได้รับรู้ว่าฮอร์โมนเราผิดปกติ ขั้นตอนการรักษาก็ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ แค่ดีท็อกซ์ร่างกายตัวเอง อะไรที่เคยกินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา หรือถ้ามีปาร์ตี้ก็อย่าหนักหน่วง แล้วก็ออกกำลังกายหนักไม่ได้ด้วย เพราะว่าน้ำหนักที่มันเยอะเป็นเท่าตัว พอออกกำลังกายเยอะก็จะเจ็บ"
"ก็ยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนทานยาลดน้ำหนัก เพราะเราเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกาย แล้วพอมันมีตัวช่วยอะไรเข้ามาเราก็เลยลอง พอลองแล้วมันไม่โอเคเราก็หยุด เพราะเคยเจอเอฟเฟ็คที่ถึงขั้นมือสั่น เหงื่อแตก เดินไปไหนไม่ได้ เวียนหัว พะอืดพะอมจะอ้วกก็เลยหยุด ช่วงนั้นคือแย่มาก หลังจากนั้นจิลล์ก็เริ่มออกกำลังกาย แต่ก็ออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่เหมือนสารทุกอย่างมันมาตกค้างช่วงอายุนี้พอดี เพราะจิลก็ 30 แล้ว"
