โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

จากเด็กวิทย์สู่ไอดอล "เฌอปราง BNK48" เตรียมดูงาน "นาซา" ต่อยอดความฝันท่องอวกาศ

ไทยรัฐออนไลน์ - บันเทิง

อัพเดต 07 ธ.ค. 2562 เวลา 01.42 น. • เผยแพร่ 07 ธ.ค. 2562 เวลา 00.30 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ไม่ทิ้งโอกาสดีๆที่เข้ามา สำหรับนักร้องสาว เฌอปราง อารีย์กุล หรือแคปเฌอ หัวหน้าไอดอลหญิง “BNK48” พิสูจน์ความสามารถกับ “งานแสดง” อีกครั้ง กับซีรีส์เรื่อง “One Year 365 วันบ้านฉัน บ้านเธอ” เป็นการจับมือร่วมกันระหว่าง GDH และ Line TV ประกบพระเอกหนุ่ม เก้า-จิรายุ ละอองมณี รวมถึงการร่วมงานนักแสดงรุ่นพี่อย่างแหม่ม-คัทลียา และดู๋-สัญญา บรรยากาศอบอุ่นจนไม่รู้สึกไปทำงาน “คนดังนั่งคุย” คว้าสาวเฌอปราง มาเปิดใจกับเส้นทางชีวิต จากเด็กวิทย์สู่การเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ป แต่ก็ไม่ทิ้งความฝันอยากท่องอวกาศ?!!!

บทบาทในซีรีส์เรื่องนี้เฌอปรางเล่นเป็นใคร

“รับบทเพชรพี่สาวคนโตของบ้าน เหมือนแม่อีกคนของน้องๆ ดุยิ่งกว่าแม่ด้วยซ้ำ คอยดูแลน้องๆ คอยจัดการเรื่องบ้าน อยู่ๆวันนึงแม่พาใครไม่รู้อยู่ในบ้าน แม่จะแต่งงานใหม่ เราไม่เคยรู้แม่มีแฟนใหม่ ทะเลาะกับแม่ อีกบ้านนึงเค้าไม่ได้มาแค่สามีแม่แต่ลูกเค้าก็มาด้วย คือพี่เก้า” พอเล่นบทแบบนี้รู้สึกว่ามันยากในเรื่องการถ่ายทอดมั้ย “บางส่วนก็ยากค่ะ อยู่กับน้อง ไม่ค่อยยาก เหมือนเป็นชีวิตประจำวัน ไม่ต้องหวือหวาอะไร มันจะยากตรงที่เวลาเกิดเรื่องบางอย่าง ตัวเพชรจะค่อนข้างเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่ค่อยแสดงออก พอโกรธจะนิ่ง เศร้าก็ไม่บอก” บทเฌอเป็นหมอมั้ย “เป็นหมอฟันค่ะ เรียนอยู่ปี 5 กำลังขึ้นวอร์ด” น่าจะคล้ายๆชีวิตจริงมั้ย “ชีวิตจริงเฌอเรียนวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เรียนเป็นแพทย์ มีส่วนที่คล้าย แต่ถ้าเป็นแพทย์เรียนลึกกว่าเดิม ก่อนเล่นเรื่องนี้เฌอได้ไปเรียนกับทันตแพทย์จริงๆมาด้วย ฝึกใช้เครื่องมือแพทย์และวันจริงก็ต้องทำฟันให้พี่เก้าจริงๆ เราแค่อ้าปาก ทดสอบใช้การย้อมสีฟัน สอนแปรงฟัน อันนี้ถือว่าดีมาก แพทย์เคยสอนแหละแต่เราจำไม่ได้แล้ว มาครั้งนี้เหมือนเป็นการย้ำอีกครั้งนึง ต้องเอียงแปรง 45 องศาเข้าซี่ฟัน แปรงข้างละ 10 ทีถึงเปลี่ยน”

ฉากหวานๆ ซีนความรักในเรื่องเป็นยังไงบ้าง

“ต้องบอกก่อนในเรื่องมีความรักทุกรูปแบบ ไม่ว่ารักของพ่อกับแม่ รักของแม่กับลูก รักของพี่กับน้อง รักของเพื่อนกับเพื่อน และรักแบบแฟนก็มี ตามเนื้อเรื่องหนูคู่กับพี่เก้า ซึ่งเราต้องบอกว่าเราแอนตี้เค้าตั้งแต่แรก เป็นใครมาอยู่บ้านเรา จะไม่ถูกกันนิดนึง แต่เค้าเป็นคนที่อยากให้พ่อกับแม่แต่งงานกัน จะเข้ามาถามทำไมเราถึงไม่เปิดใจ” คนที่เป็นแฟนคลับจะได้ลุ้นกับฉากมุ้งมิ้ง กุ๊กกิ๊กมากน้อยแค่ไหน “มีกุ๊กกิ๊กบ้างแต่ไม่มาก เราจะไปโฟกัสที่พ่อกับแม่มากกว่า” เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ไหน “ความธรรมดาที่เราเจอทุกวันแต่มีความอบอุ่น มีความไม่ธรรมดาในครอบครัว ครอบครัวเป็นพื้นฐานที่ทุกคนมี เราอยู่ในตำแหน่งไหนของครอบครัว ที่บอกว่าดูได้ทุกเพศทุกวัย เพราะบางคนเป็นพี่ชาย เป็นน้องสาว เป็นพ่อ เป็นแม่ หรือบางคนเป็นซิงเกิลมัม ซิงเกิลแด๊ด ต้องเข้าไปอยู่บ้านใหม่ต้องปรับตัวใหม่ๆ เรื่องนี้จะไม่มีตัวร้าย หลักๆจะหวังดีซึ่งกันและกัน”

เวลาเจอซีนดราม่าเฌอปรางไหวมั้ยรอดมั้ย

“รอดค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้มีมวลความเป็นบ้าน ตัวเราเล่นไปก็อิน ตอนนี้เล่นไปก็นับถือพี่ดู๋ พี่แหม่มเป็นพ่อเป็นแม่ไปแล้ว ทั้งคู่แนะนำอะไรดีๆทั้งนั้นให้กับพวกเรา ดีมากๆ ร่วมงานกับพี่แหม่มก็ไม่รู้สึกเกร็ง ก็รู้สึกได้ว่าเป็นคนใจดี ส่วนพี่ดู๋ ทีแรกเกร็ง โชคดีหนูเคยไปร่วมรายการของพี่ดู๋มาแล้วรอบนึง เลยได้คุยกัน รู้จักกันบ้างนิดหน่อย กลายเป็นว่าเค้าเป็นคนเปิดใจ ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไม่ปิดกั้นตัวเอง อยู่ในกอง ทั้งคุณพ่อดู๋ คุณแม่แหม่มเอนจอยกับพวกเรามาก เค้าสนิทกันอยู่แล้วและเผื่อแผ่มาถึงลูก เล่นกัน เอาของกินมากิน เล่นมุก เด็กๆ เล่นเกมอะไรกัน เค้ามาถามมาคุยเรื่อยๆ เอนจอย ไม่รู้ มีความอบอุ่น ไม่เหมือนไปทำงาน เหมือนไปเล่นไปพักผ่อน”

ตอนนี้เฌอเรียนจบแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราต้องทำทั้งสองอย่างแล้วผลการเรียนก็ออกมาดี มีเคล็ดลับยังไง

“ของเฌอโชคดีเข้ามาวงช่วงเรียนปี 3-4 เหมือนจะเรียนหนัก แต่จริงๆ ปี 1-2 เฌอค่อนข้างอัดวิชาเต็มที่ไปแล้ว เราตั้งใจอยากได้เกียรตินิยมตั้งแต่แรก เป็นพวกอยากทำอะไรก็ทำให้มันดีแล้วกัน จะได้ไม่รู้สึกเสียเวลาในช่วงที่เราใช้เวลากับมันไป 4 ปีที่นั่นทำไมเราไม่ใช้มันดีๆ เต็มความสามารถของเรา ผลอาจจะดีหรือไม่ดีบ้าง แต่อย่างน้อยเราเต็มที่กับมัน คิดแบบนี้เสมอไม่ว่าอะไร บางอย่างเราไม่อยากทำแต่มันเข้ามาให้เราทำ อย่างน้อยๆเป็นประสบการณ์ แค่ไม่อยากเสียดาย ไม่อยากมีคำว่ารู้อย่างนี้เกิดขึ้น”

ก่อนหน้านี้สงสัยทางมหาวิทยาลัยอาจารย์ ม.มหิดล เค้าสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน

“ทางมหาวิทยาลัยรับรู้ว่าเฌอเป็นบีเอ็นเค โอเคเราอาจจะหายไปบ้างแต่เราทำหนังสือแจ้งทุกครั้ง ว่าเราทำอะไรจะมีหลักฐาน เราไม่ได้หายไป พยายามกลับมาเรียนตลอด ไม่ว่าเลิกดึกแค่ไหนก็ตาม บางทีมีหลับในห้องเหมือนกัน อาจารย์หลายๆท่านเข้าใจ เข้าใจเฌอไม่ได้ทำอะไรไม่ดี เฌอตั้งใจเอาเรื่องที่เป็นวิทยาศาสตร์ ใช้ชื่อเสียงตรงนี้เป็นเครื่องมือในการบอกเล่าวิทยาศาสตร์ต่อไปในอนาคตด้วยว่า มันไม่ได้ยาก หนูไม่ได้เป็นคนเก่ง ไม่อย่างนั้นหนูคงสอบไปเรียนต่างประเทศได้นานแล้ว แต่สอบไม่ได้เพราะหนูไม่ได้เก่งขนาดนั้น เป็นคนชอบเรียน พอมีทักษะพอที่จะช่วย อาจารย์ก็ต้องการทีม ต้องการให้หนูช่วยเก็บดาต้า ข้อมูลมาทำเอกสาร เฌอรู้สึกว่าชอบ พอได้มีโอกาสทำตรงนี้ หนูก็คุยกับอาจารย์ว่าอาจารย์บอกว่าเคยทำเปเปอร์ไปแต่ก็ไม่มีคนอ่าน ตีพิมพ์ไปในทางวงการวิชาการ ได้รับการยอมรับ เลื่อนขั้นเป็นศาสตร์ แต่ถ้าเราเป็นคนมีชื่อเสียง มีคนติดตาม กลายเป็นว่าเปเปอร์ที่หนูตีพิมพ์มีคนอ่านเยอะกว่าอีก อาจารย์สนับสนุนเพราะเราได้เป็นกระบอกเสียงที่เป็นประโยชน์” การทำบาลานซ์ยากมาก “ถ้าไม่มีวินัยนะ ไหนๆเราตัดสินใจที่จะมาทำตรงนี้เอง ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าฉันทำได้ ไม่อยากให้ใครเป็นห่วง”

ไม่น่าเชื่อว่าเฌอจะโดดลงมาสนามสมัครเข้าเป็นไอดอลทั้งๆที่ดูเป็นเด็กเรียน

“ชีวิตไม่เคยออดิชันอะไรจริงจังมาก่อน ไหนๆก็อยากรู้เลยลองดูหน่อยแล้วกัน ถ้ามันได้ไปต่อก็ลองไปกับมันให้สุด ถ้าไม่ติดก็ไม่ได้เสียหนักขนาดนั้น เราก็จะเป็นแฟนคลับคนนึงเพราะเราชอบคอนเซปต์วงแบบนี้ เราได้รับกำลังใจจากไอดอลของเราที่ประเทศญี่ปุ่น ก็คิดถ้ามีคอนเซปต์นี้ในเมืองไทยก็น่าจะดีนะ จะได้เป็นแรงบันดาลใจ แรงจูงใจให้คนรู้สึกฮึดที่จะทำอะไรบ้าง เฌอเริ่มต้นจากที่ไม่รู้จริงๆ ไม่เคยเรียนร้องเรียนเต้น ไม่มีสกิลวงการบันเทิง” อายุเราเหมือนเราเป็นพี่ใหญ่ เรามองว่าเส้นทางของเรา ระยะของเราจะไปต่อได้อีกเท่าไหร่ “บอกตามตรงเรามองเอาไว้แค่สิ้นสุดสัญญาก่อน อีกประมาณ 3 ปีค่ะ เราไม่รู้ว่าตอนนั้นวงจะเป็นยังไง” หลังจากหมดสัญญาเริ่มมองแนวทางตัวเองยังไงบ้าง “ตอนนั้นหนูคงอายุ 26-27 เต้นร้องแบบเดิมอาจจะไม่ไหวหรือเปล่า เพราะของพวกเราบีเอ็นเคต้องขึ้นเธียเตอร์กันเป็นประจำ วันละ 2 ชม. 2 รอบต่อวัน”

อย่างเฌอ ปัน ยังต้องขึ้นเธียเตอร์อีกเหรอ

“ต้องบอกว่าเธียเตอร์เป็นสถานที่ฝึกให้พวกเราชินกับเวที ฝึกร้อง ฝึกเต้น ฝึกพูด จากวันนั้นจนวันนี้ทำให้เราพัฒนาไปเยอะ เปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะมาก ดูแลตัวเอง จากไม่ค่อยแต่งหน้า ลิปก็ไม่ทา ตอนนี้ก็แต่งหน้าทำผมเอง เวลาออกอีเวนต์ ไม่ได้มีช่างแต่งหน้าให้ ก็ต้องทำกันเอง การดูแลรูปร่าง รักสวยรักงาม มากขึ้นเยอะมาก” ตัดผมสั้นอีก ไม่เสียดายผมเหรอ “ไม่ค่ะ คิดว่าเดี๋ยวมันก็ยาว เป็นคนขี้เบื่อ แค่อยากเปลี่ยนลุคตัวเอง อยากลองตัดผมอีกแบบ เคยตัดสั้นแบบบ๊อบ ไม่เคยตัดแบบนี้ ตอนนี้เราอยากเปลี่ยนลุค เปลี่ยนอะไรใหม่ๆ กลายเป็นเรื่องนี้มีความหลากหลาย ต้องบอกว่าหนูโตมากับกลุ่มเพื่อนผู้ชายมากกว่าเพื่อนผู้หญิง อยู่ในห้องสายวิทย์เป็นผู้หญิงคนเดียว ทุกคนเป็นเพื่อนกัน ครูคอยดูตลอด ครูห้ามเพื่อนผู้ชายเข้าใกล้ เฌอก็บอกไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ กลายเป็นว่าอยู่ในซีรีส์มาเป็นพี่ใหญ่”

ก่อนมาสายบันเทิงเราคิดมั้ยเรียนจบแล้วเราจะทำอะไรยังไง

“คิดว่าจะไปเรียนต่อ ก็คิดไปถึงอาชีพ อยากเป็นนักวิจัย เป็นอาจารย์มั้ยก็อยากถ้าเราถึงจุดจุดนึงแล้ว มีความรู้ความสามารถประมาณนึงเราก็อยากที่จะถ่ายทอด อยากส่งต่อให้เหมือนกับที่ครูให้ความรู้กับเราบ้าง ถ้าเป็นอาจารย์ได้ก็คงดี ไม่ก็เป็นนักวิจัย สุดท้ายไม่ว่าเราทำอาชีพอะไรเราก็ต้องส่งต่อความรู้อยู่ดี ให้คนต่อไปให้คนทำงานต่อเรา เพราะเราได้รับจากอาจารย์ได้รับจากหลายๆคนเต็มไปหมดเลย” ชีวิตเฌอมีแต่เรื่องงานจริงๆ “หนูไปได้เพราะเรื่องงาน ไม่ก็เรียนแต่ก็มีเรื่องอื่นๆบ้าง แต่คุณค่าของหนูผ่านงาน ทุกคนจะต้องทำอะไรสักอย่างไม่อย่างนั้นเค้าจะมีสิ่งที่เค้าทำได้ เพราะสิ่งที่เค้าทำได้ก็เลยมีคุณค่าที่เค้าต้องการ มีงานทำ มีคนต้องการให้เราไปสอนไปแนะนำ”

ยังมีความฝันอะไรที่อยากจะทำอีกมั้ย

“มีความฝันอยากไปอวกาศค่ะ (ยิ้ม) อยากไปเห็นอวกาศ อยากไปเห็นโลกด้วยสายตาเราเอง คือรู้สึกว่าเราดูแต่ภาพถ่าย วันนึงเราก็อยากเห็นกับตา เหมือนมนุษย์เมื่อก่อนอยากบินได้ ตอนนี้เราก็ได้ขึ้นเครื่องบินแล้ว ต่อไปเราอยากเห็นอวกาศ” ความฝันเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่เราคิดว่าเป็นไปได้มั้ย “ลองดูแล้วกันค่ะ(หัวเราะ) ก็ๆ เป็นอันนึง หนูว่าตอนนี้ก็เข้าไปเกินกว่าที่คาดเอาไว้เยอะแล้วนะคะ จะได้ไปนาซาปีหน้า ได้ไปอยู่ค่ายที่เค้าฝึกคน”ไปในฐานะส่วนตัวหรือเปล่า “ไปในฐานะบีเอ็นเคค่ะ เราได้รับโอกาสตรงนี้เพราะเค้าสนใจว่าเราเผยแพร่โครงการนี้ให้เค้าได้ ทางตัวแทนนาซาเมืองไทยให้เราเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เป็นพรีเซนเตอร์ของโครงการและให้เราไปร่วมกับทางค่ายที่ส่งเด็กไปที่โน่น โชคดีมากเราได้ทำ
ตรงนี้ ได้ต่อยอดความฝันของเรา” ตรงตามเป้าหมายของเราอยากถ่ายทอดวิทยาศาสตร์ “ใช่ค่ะ ได้ทำสองอย่าง ถึงแม้ไม่ได้เข้ามาเราก็อยากถ่ายทอด แต่เข้ามากลายเป็นบวกๆ ไม่ใช่ว่าไม่มี หนูมีของของหนูอยู่แล้วแต่อยากทำตรงนั้นแหละ อะไรที่มันเป็นเครื่องมือหรือเสริมทัพให้มันชัดเจน”.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0