โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

จากนกที่บินได้ กลายเป็น นกดำน้ำ นักวิจัยค้นพบซากฟอสซิลเพนกวิน ที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของเพนกวิน

The MATTER

อัพเดต 11 ธ.ค. 2562 เวลา 15.12 น. • เผยแพร่ 10 ธ.ค. 2562 เวลา 09.00 น. • Brief

เคยสังสัยไหมว่า ทำไมนกเพนกวินถึงบินไม่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นนก ซึ่งที่ผ่านมา การค้นพบซากฟอสซิลของเพนกวินดึกดำบรรพ์ ยังไม่ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้ว่าเพนกวินมีวิวัฒนาการได้อย่างไร จนกระทั่งค้นพบซากฟอสซิลบนหมู่เกาะแชทัมในประเทศนิวซีแลนด์

นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตที่ค้นพบบนหมู่เกาะแชทัม ประเทศนิวซีแลนด์ และพบว่า นกเพนกวินสายพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากับมนุษย์ผู้ใหญ่ อาจว่ายน้ำข้ามทะเลซีกโลกใต้ มาพร้อมกับนกเพนกวินขนาดเล็กกว่า ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับเพนกวินสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในทวีปแอนตาร์กติกาในปัจจุบัน

ซากฟอสซิลของเพนกวินดึกดำบรรพ์ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ‘Kupoupou stilwelli’ ซึ่งเป็นเพนกวินดึกดำบรรพ์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเพนกวินสายพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันมากที่สุด ถูกค้นพบบนหมู่เกาะแชทัม ในช่วงที่มีการสำรวจหมู่เกาะแชทัม ในปี ค.ศ. 2006 ถึง 2011 โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Monash University นำทีมโดย เจฟฟรีย์ สตีลเวลล์ (Jeffrey Stilwell) นักบรรพชีวินวิทยา

Kupoupou มีความสูงประมาณ 110 เซนติเมตร มีขาที่เล็กกว่าเพนกวินสายพันธุ์อื่นที่เคยมีการค้นพบซากฟอสซิล มันสามารถดำน้ำได้ดี และมีขาหลังและเท้าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเพนกวินในยุคปัจจุบัน มันมีชีวิตอยู่ในช่วง 62.5 - 60 ล้านปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์การสูญพันธ์ุหมู่ของไดโนเสาร์ และตอนนั้นทะเลที่อยู่รอบๆ ประเทศนิวซีแลนด์ ยังเป็นพื้นที่เขตร้อนและเขตกึ่งร้อน

อ้างอิงจากงานวิจัยที่เผยแพร่ใน Palaeontologica Electronica คำว่า Kupoupou เป็นภาษาชนเผ่าโมริโอริ (Te Rē Mōriori) แปลว่า นกดำน้ำ ส่วนคำว่า stilwelli เป็นการยกย่องผู้ค้นพบเพนกวินสายพันธุ์นี้

พอล สโคฟิลด์ (Paul Scofield) ผู้เขียนงานวิจัย กล่าวว่า มันเป็นไปได้ที่นกเพนกวินสูญเสียความสามารถในการบิน และได้รับความสามารถในการว่ายน้ำมา หลังเหตุการณ์การสูญพันธ์ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อ 66 ล้านปีก่อน แสดงให้เห็นว่า นกได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น

การค้นพบในครั้งนี้อาจมีความเชื่อมโยงกับที่มาของเหตุการณ์การย้ายถิ่นของเพนกวินจากหมู่เกาะแชทัม มายังชายฝั่งตะวันออกของเกาะใต้ที่อยู่ห่างออกไป 800 กม. อันเป็นพื้นที่ที่มีการค้นพบซากฟอสซิลเพนกวินยุคดึกดำบรรพ์จำนวนมาก

อ้างอิงจาก

https://edition.cnn.com/2019/12/09/world/penguin-evolution-dinosaurs-scn/index.html

https://phys.org/news/2019-12-penguins-dinosaurs-died.html

พิสูจน์อักษร: กรุณพร เชษฐพยัคฆ์

#Brief #TheMATTER

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0