พูดถึงเรื่องความฝันจันว่าทุกๆคนมีความฝันที่แตกต่างกันไป แต่สักกี่คนที่จะสามารถก้าวผ่านบททดสอบของความฝันครั้งแล้วครั้งเล่าจนสำเร็จได้ วันนี้จันมีเรื่องราวของอีกหนึ่งคนสู้ที่น่าชื่นชม คือ วิทย์ วรวิทย์ คงบางปอ เด็กหนุ่มที่มีความฝันเหมือนคนทั่วไป ที่อยากมีอนาคตที่มั่นคง อยากให้พ่อแม่สบายและทำให้พ่อแม่ภูมิใจ เขาเริ่มวาดความฝันโดยการการอยากเป็นนายร้อยตำรวจ เลือกเดินตามเส้นทางของข้าราชการที่อนาคตมั่นคง เขามุ่งมั่นเพื่อสอบเข้าเรียนนายร้อยตำรวจ ตั้งแต่เรียนอยู่ ม.ต้น แต่ความสำเร็จมักมีบททดสอบเสมอ เขาสอบไม่ติดตามที่หวังในครั้งนั้น แต่ไม่เคยละความพยายาม ในระหว่างช่วงปิดเทอม ม.3 จะเข้าเรียนต่อ ม.4 วิทย์ตั้งใจเข้าโรงเรียนกวดวิชาเพื่อสอบเข้าเรียนนายร้อยตำรวจอีกครั้ง โดยใช้เวลาครึ่งเทอมเพื่อเรียนในโรงเรียนกวดวิชา แต่โชคชะตาเหมือนเล่นตลกกับเขาอีกครั้ง การสอบเพื่อเข้าเรียนนายร้อยตำรวจครั้งที่ 2 ของวิทย์ ไม่สำเร็จอีกแล้ว
บางคนอาจจะท้อไม่รู้จะเดินไปทางไหนต่อ ไม่แปลกเลยที่เราจะมีความคิดแบบนี้ วิทย์ก็เช่นกัน เมื่อผิดหวังครั้งที่ 2 เขากลับมาตั้งหลักวางแผนใหม่ จะเลือกเดินไปทางไหนต่อ และวิทย์ก็เลือกที่จะกลับไปเรียนสายสามัญต่อ จึงเข้าไปติดต่อที่โรงเรียนเดิมที่เคยเรียนตอนม.ต้น แต่ทางโรงเรียนกลับบอกเขาว่า ไม่สามารถเข้าเรียนในสายสามัญได้ ซึ่งทางโรงเรียนให้เหตุผลว่า หน่วยกิตไม่ตรงกัน แต่ทางโรงเรียนกลับให้คำแนะนำ ซึ่งไม่รู้ว่านี่เป็นคำแนะนำจากความหวังดี จริงหรือเปล่า ? ทางโรงเรียนบอกว่า “ยังไงก็ให้
เรียนต่อไม่ได้ ถ้าอยากเรียนก็ให้ไปเรียน กศน.”
คำแนะนำส่งๆ ของทางโรงเรียนครั้งนั้น แต่กลับเป็นทางเลือกที่วิทย์ทำจริงๆ ด้วยความโมโห และอยากเอาชนะเขาสมัครเขาเรียน กศน. (การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย) โชคชะตาส่งบททดสอบมาให้เขาอีกครั้ง เมื่อครอบครัวไม่เห็นด้วย จนแม่ถึงกับเป็นลมหมดสติ เมื่อรู้ว่าลูกชายเลือกเรียน กศน. การที่วิทย์ทำให้ครอบครัวผิดหวังครั้งนั้น ทำให้เขาเสียใจมาก
เขากลับมาทบทวนและวางแผนชีวิตตัวเองอีกครั้ง เมื่อเดินแล้วก็ต้องเดินให้สุด ในระหว่างที่วิทย์เรียน กศน. อาทิตย์ละ 1 วัน ทำให้เขามีเวลาว่าง วิทย์จึงมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการจิตอาสา การเป็นจิตอาสาในครั้งนั้น ทำให้วิทย์ได้เห็นว่า เขาอยากทำอะไรเพื่อสังคมอยากช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน เขาเริ่มจุดไฟในตัวเองอีกครั้ง อยากทำอาชีพที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น เขาตั้งไว้ในใจ 2 อาชีพ คือทนาย ที่คอยว่าความ หาความยุติธรรมให้กับผู้ที่เดือดร้อน และหมอ ที่คอยช่วยชีวิตคน และแล้ววิทย์ก็ตัดสินใจเลือกอาชีพหมอเป็นอาชีพในฝันของเขา
ตั้งแต่วินาทีที่วิทย์ตัดสินใจ คือวินาทีเดียวกับที่วิทย์เริ่มจัดการตารางชีวิตตัวเอง เขาวางแผนการเรียนตามหลักสูตรของ กศน.ไปพร้อมๆกับการเตรียมตัวโดยการติวหนังสือด้วยตัวเอง จะทำยังไง ให้เวลาของตัวเองที่เดินตามหลังเพื่อนรุ่นเดียวกัน ต้องจบม.6 หรือเทียบเท่ากับเพื่อนให้ทัน
เขาเริ่มหาข้อมูลว่าหลักสูตร ม.ปลายในแต่ละระดับชั้น ต้องเรียนวิชาอะไรบ้าง ซื้อมาอ่านเอง ลองทำข้อสอบเอง เละเปิดดูเฉลยเอง วิทย์แบ่งเวลาให้กับตัวเองอย่างเป็นระบบแต่ไม่ได้เคร่งครัดตัวเองเกินไป เขาอ่านหนังสือ 2 ชม. ต้องปล่อยเวลารีแลกซ์ให้ตัวเอง 1 ชม. เขาทำอย่างนี้เป็นเวลา 1 ปีครึ่ง เพื่อรอเวลาไปสอบเข้าเรียนหมอตามที่เขาตั้งใจ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าวุฒิ กศน.แต่ทำไมถึงสอบเรียนหมอได้ วิทย์บอกกับจันว่า เขาเลือกสอบตรง การที่เราจะรู้ว่าสถาบันใหนที่สามารถให้เข้าสอบได้โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษา เราต้องมีเกณฑ์การเปิดรับสมัคร จะขึ้นว่าหากเป็นการสอบตรงรับวุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่าก็สามารถสอบได้
การไปสอบครั้งนั้นวิทย์ตั้งใจทำให้เต็มที่ เพราะบอกตัวเองว่ามีโอกาสทำได้แค่ครั้งเดียว แต่ไม่เอาความมุ่งมั่นมากดดันตัวเอง 2 วันก่อนสอบเขาไม่แตะหนังสือ ไม่พูดถึงเรื่องการสอบเพราะที่ผ่านมา เขาทำเต็มที่แล้ว
ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร ครั้งนี้วิทย์ทำสำเร็จ จากนักเรียน กศน. สู่นักศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า และตอนนี้วิทย์ก็เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ว่าที่คุณหมอ ตามความตั้งใจ
ความพยายามของวิทย์ทำให้จันรู้ว่า การล้มในทุกๆครั้ง ยิ่งเรารีบรักษาตัวเองและลุกขึ้นให้ไวเท่าไหร่ คือการย่นเวลาความสำเร็จของเราให้เร็วขึ้นเท่านั้น จันนับถือความพยายามของผู้ชายคนนี้ ว่าที่คุณหมอคนเก่ง จันขอปรบมือรัวๆเลยค่ะ
