จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อยิง นายธวัชชัย รักษากุล อายุ 21 ปี เสี่ยหนุ่ม อดีตเจ้าของโรงสี และนายเสกสันต์ รูปสมอายุ 39 ปี หรือฉายา “เข ท่าแจ้ง” เพื่อนรุ่นพี่ เสียชีวิต 2 ศพ ข้างไร่อ้อยท้ายหมู่บ้านหมู่ 6 บ้านท่าแจง ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวันที่ 22 ก.ค. พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.กาจภณ ปฐมัง รอง ผกก.(สส.) ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.ท.ชัยญาใสจันทึก สว.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี ได้จับกุมตัว นายรังษี ปานเปีย อายุ 39 ปี มีฉายา “เอสหน้าลาย” พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก ซึ่งเป็นคนที่โทรศัพท์ไปหานายเสกสันต์ ผู้ตาย เป็นคนสุดท้าย โดยจับได้ที่บริเวณบ้านร้างในหมู่4 บ้านเสาหงส์ ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ10 กม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่ สภ.บ่อพลอย
ต่อมาที่ สภ.บ่อพลอยพล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง รองผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รอง ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัยกอสนาน ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.สมเกียรติเพ็ญศิริสมบูรณ์ ผกก.สภ.บ่อพลอย ได้ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังสอบสวนนายรังสีให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 2ศพจริง
โดย พล.ต.ต.สุวิทย์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นนายรังษีได้ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่ามาจากการทวงหนี้ที่นายเสกสันต์ซื้อพระเครื่องแล้วไม่ยอมจ่ายเงินจึงได้โทรศัพท์นัดให้นายเสกสันต์ออกมาเจรจาตกลงกัน ซึ่งนายเสกสันต์ได้ขี่รถจักรยานยนต์มากับนายธวัชชัยที่ไม่รู้เรื่องด้วยมายังจุดนัดพบก่อนจะใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อยิงนายเสกสันต์และนายธวัชชัยจนเสียชีวิตคาที่ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปกระทั่งถูกตำรวจจับกุมในที่สุด อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาจะได้สืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
ภายหลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนนำตัวนายรังษีไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมามุงดูเป็นจำนวนมากรวมทั้งญาติพี่น้องผู้ตายทั้งสองต่างตะโกนสาปแช่งด้วยความโกรธแค้น ทั้งนี้ นายรังสีมือปืนรายนี้เคยต้องโทษคดีพยายามฆ่าเมื่อปี 2546