กาฬสินธุ์-จับแล้ว 12 วัยรุ่นโชว์เถื่อนรุมกระทืบหนุ่มช่างไฟฟ้าปางตาย อ้างทะเลาะกันตั้งแต่ในผับ 99 หลังแยกย้ายจึงตามรุมกระทืบซ้ำ พร้อมกราบขอโทษพ่อแม่ผู้เคราะห์ร้าย ยอมรับคลิปมีความรุนแรงแต่ไม่คิดเอาถึงตาย
จากกรณีที่มี อาจารย์ของวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ นำภาพจากกล้องวงจรปิดโพสต์ในเฟสบุ๊คของตน ในช่วงบ่ายวันที่ 17 พ.ย.61 เป็นภาพของกลุ่มวัยรุ่นในเมืองกาฬสินธุ์ ไล่ทำร้าย นายจักรพงษ์ สมวิลัย หรือแจ๊ค หนุ่มช่างไฟฟ้าโรงงานไฟฟ้าในเขตอำเภอกมลาไสย ตามภาพและคำบอกเล่าทราบว่า นายจักรพงษ์ ได้ไปกับเพื่อนรวม 4 คน เพื่อไปเที่ยวภายในผับ 99 ในคืนวันที่ 17 พ.ย. 61 แต่ราวตีหนึ่ง ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นเกือบ 20 คน รุมทำร้ายจนต้องวิ่งหนีกันไปคนละทิศละทาง
แต่ นายจักรพงษ์ฯ เสียหลักล้มลงและถูกรุมกระทืบ ตามภาพกล้องวงจรปิดปรากฏความป่าเถื่อนของวัยรุ่นกลุ่มนี้ สังคมต่างวิพากวิจารณ์กันเป็นอย่างมาก
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้(18 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พล.ต.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ,พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ,ฯ ลฯ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาประกอบด้วย
1.นายปราโมทย์ หรือฟอร์ด ถาวรพร้อม อายุ 21 ปี เลขที่
52 หมู่ที่ 1 ต.ขมิ้น อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ,2.นายธราเทพ หรือปกป้อง บุตรโคตร อายุ 21 ปี เลขที่ 68 ชุมชนดอนสวรรค์ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ และ 3.นายธีรพล อุ่นทยา อายุ 21 ปี เลขที่ 198 หมู่ที่ 9 ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ,4.นายนฤเดช บุญชิต อายุ 21 ปี เลขทึ่ 57 หมู่ที่ 10 ต.ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปีประกอบด้วย 5.นายปลาย (นามสมมุติ) 6.นายนิล (นามสมมุติ) 7.นายภูมิ (นามสมมุติ) 8.นายบั๊พ (นามสมมุติ) 9.นายเจล (นามสมมุติ) 10.นายอ๊อฟ (นามสมมุติ) 11.นายกร (นามสมมุติ) และ 12.นายเน (นามสมมุติ)
ทั้งหมดเป็นชาวกาฬสินธุ์ และเป็นผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมของกลางเศษไม้เก้าอี้ และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีควันบุหรี่ ทะเบียน บจ 8631 กาฬสินธุ์ รถที่ใช้ในการก่อเหตุของผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันจับกุม นายปราโมทย์ หรือฟอร์ด ถาวรพร้อม ผู้ต้องหาคนที่ 1 ได้ตั้งแต่ในช่วงเช้าวันนี้ และทำการซัดทอดจนมีการมอบตัวสู้คดี
โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายจักรพงษ์ หรือแจ๊ค สมวิลัย และพวกรวม 4 คนและอีก 1 คนที่ถูกลูกหลงจริง
พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุทำร้ายร่างกายครั้งนี้กล้องวงจรปิดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้จับภาพขณะที่ นายจักรพงษ์ หรือแจ๊ค วิ่งหนีตาย จนมาล้มลงที่บริเวณตลาดทุ่งนาทอง และ ถูกรุมตีอย่างโหดร้าย ตั้งแต่เวลา 01.25 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกับ พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ติดตามจับกุม จนสามารถจับนายปราโมทย์ฯผู้ต้องหาที่ 1 และให้การซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งมีทั้งหมด 12 คน ได้เข้ามามอบตัวทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทั้งหมดเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียลที่ถูกบันทึกได้ในกล้องวงจรปิด และรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่อ้างว่าได้ทะเลาะวิวาทกันในผับ 99 กับกลุ่มผู้เสียหายก่อน จนมามีเรื่องต่อกันด้านนอก จนทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 5 ราย คือ นายจักรพงษ์ สมวิลัย หนุ่มช่างไฟฟ้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส และอีก 3 คน คือ นายณัฐวุฒิ เรืองวิเศษ ถูกตีที่ศีรษะ นายชาตรี โคตะนนท์ ถูกตีที่แขนได้รับบาดเจ็บเย็บ 5 เข็ม และนายอุกฤษ ดอนประจง ไม่ถูกตีเพราะวิ่งหนีทัน และยังมีรายงานคนที่โดยลูกหลงเป็นเพื่อนกับ นายจักรพงษ์ฯ คือ นายภูนัย ถิ่นโสภณ ถูกตีที่ใบหน้า เย็บ 6 เข็ม
“คดีนี้จะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างเต็มที่ เพราะคลิปที่เห็นมีความโหดร้ายเป็นอย่างมาก ซึ่งหากผลการสืบสวนขยายผลเข้าครบองค์ประกอบข้อหาพยามฆ่าก็จะให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ดำเนินการทันที”ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์กล่าวในที่สุด
รายงานเพิ่มเติมแจ้งว่า วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และ นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาสินธุ์ ได้เข้าไปเยี่ยม นายจักรพงษ์ฯที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โดยแพทย์ยังให้รอดูอาการ ขณะที่ ร.ต.ท.รัชนาท แก้วกาหลง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้สอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม และพยาน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล ส่วนใหญ่ญาติผู้เสียหายต้องการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายจักรพงษ์หรือแจ๊ค สมวิลัย หนุ่มช่างไฟฟ้า ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพทำงานที่โรงสีซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าในเขตอำเภอกมลาไสยและได้พากันมาเที่ยวตามปกติวัยรุ่นภายในผับ 99 สถานบันเทิงชื่อดังแต่แล้วก็ปรากฏว่า มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้เดินเข้ามาชกตนที่หน้าจนเกิดการชกต่อยกัน ซึ่งในระหว่างนั้น คนที่ดูแลก็พยามห้าม ตนจึงตัดสินใจที่จะหลีกหนี แต่แล้วเมื่อออกมาประตูด้านนอกก็พบกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ดักรออยู่ด้านหน้า และตรงเข้ามาทำร้ายตน ซึ่งระหว่างนั้น แต่ละคนก็จะถูกรุมทำร้ายจึงพากันวิ่งหนีแต่ตนเองได้วิ่งหลบข้ามถนนออกมาด้านหน้าตรงตลาดทุ่งนาทอง
แต่เคราะห์ร้ายวัยรุ่นกลุ่มนี้ตามทันจึงได้เข้ามาทำร้ายร่ายกายตน ด้วยการใช้ไม้ เก้าอี้ ตีเข้าที่ศีรษะ เหมือนจะทำให้ตาย ตนจึงใช้มือปิดที่หัวและพยามทำตัวแน่นิ่ง แต่ก็ยังถูกรุมทำร้ายอยู่นาน จนเมื่อพวกนี้กลับออกไปจึงได้โทรศัพท์บอกแม่ และมีพลเมืองดีพาตัวนำส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ตนคิดว่าจะต้องตายแล้วและไม่รู้ว่าสาเหตุที่มากระทืบกันนั้นเพื่อเรื่องอะไร หรือจะเป็นการเข้าใจผิดว่ากลุ่มของตนไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้า แต่เมื่อเกิดแบบนี้ก็คงจะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้าน นายภูนัย ถิ่นโสภณ เหยื่อที่ถูกลูกหลง กล่าวว่า ตนถูกตีเข้าที่ใบหน้าเย็บ 6 เข็ม ก็ไม่รู้ว่าถูกตีเรื่องอะไร แต่ตนเป็นเพื่อนกันนายจักรพงษ์ฯ ที่ถูกตีจนอาการสาหัส ยอมรับรู้สึกเสียใจและหวาดกลัวต่อการกระทำโดยเฉพาะจากคลิปที่เห็นเป็นภาพที่มีความรุนแรงเหมือนต้องการจะตีให้ตาย จริงๆหากเป็นลูกผู้ชาย ตีแล้วเค้าไม่สู้ก็ควรที่จะพอได้แล้วไม่น่าจะทำแบบนี้และยอมรับว่ารู้สึกเจ็บใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยเพราะเป็นการรุมทำร้ายร่างกายคนที่ไม่มีทางสู้แล้ว
ขณะที่ นายปราโมทย์ หรือฟอร์ด ถาวรพร้อม ผู้ต้องหาที่ 1 กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากในผับ เพราะตั้งแต่ดื่มกันครั้งแรกก็ชนแก้วกันตามปกติไม่มีอะไร และไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ แต่จู่ๆก็มีการทะเลาะชกต่อยกัน ซึ่งฝั่งโน้นเป็นฝ่ายชกต่อยก่อน จนมีการวิ่งไล่ชกต่อยกันออกมาถึงด้านนอก ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นเด็กๆที่อยู่ด้านนอกก็ไม่รู้เรื่องอะไรเพียงแต่เห็นกลุ่มพี่ๆมีเรื่องก็วิ่งเข้ามาช่วยเท่านั้น ในภาพที่ปรากฏว่าตนขับรถกระบะไปเปิดไฟแล้วตีซ้ำนั้น ยอมรับว่าได้ลงมือแต่คิดว่า คนที่นอนลงไปพึ่งจะล้มลง จึงเข้าไปตีนายจักรพงษ์ฯต่อ
ซึ่งในเหตุการณ์ก็มีการห้ามปรามกันไม่คิดที่จะเอาถึงตาย แต่ภาพปรากฏแบบนี้ก็ยอมรับว่าเสียใจ ก็ต้องกราบขอโทษพ่อแม่และญาติของผู้เสียหายด้วย ส่วนขั้นตอนคดีจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ตำรวจก็แล้วกัน
