เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (15 ก.ค. 62) ที่สนามโรงเรียนโซ่พิสัยพิทยาคม อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจุดไฟเผาฆาตกรรม พระสมจิต ขันติธโร อายุ 53 ปีเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประเสริฐเกิดทรัพย์ ประกอบด้วยฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 4 ชุดสืบสวน ภ.จ.บึงกาฬ กก.3 กองปราบปรามและ สภ.โซ่พิสัย ได้ควบคุม 3 ผู้ต้องหามาจาก จ.ศรีสะเกษ นั่งเฮลิคอปเตอร์มาลงที่สนามฟุตบอล ร.ร.โซ่พิสัยพิทยาคม จากนั้นควบคุมตัวขึ้นรถตู้ไปสอบสวนที่ สภ.โซ่พิสัย โดยทำการแยกสอบเป็นรายตัวโดยการควบคุมอย่างใกล้ชิดของ พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ พ.ต.อ.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ รอง ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากวิสุทธิ์ ผกก.นฟ.ภ.4 พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย
ซึ่งผู้ต้องหาประกอบไปด้วย 1.พระบัญชา หรือนายบัญชา จันทร์คำ อายุ 37 ปี 2.นายทนงศักดิ์ โสกแก้ว อายุ 43 ปี และ 3.นายสมุทร์ วันอุบล อายุ 67 ปี เป็นชาว อ.ขุนหาร จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 3 คน ภายหลังควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหาถึงโรงพัก ตำรวจได้ทำพิธีให้พระบัญชาได้กล่าวคำลาสิกขาต่อหน้าพระพุทธรูปประจำโรงพัก โดยผู้ต้องหาขอให้มีผ้าเหลืองติดที่ข้อมือด้วย ทางตำรวจก็ยอม ก่อนจะนำตัวไปแยกสอบสวนตามห้องต่างๆ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พ.ต.ท.ชาติชาย สัพโส สบ.3 พิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ จึงได้เก็บตัวอย่างดีเอนเอทั้ง 3 คน ไว้เปรียบเทียบกับหยดเลือดที่ตกในที่เกิดเหตุ
ด้าน พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ ได้กล่าวหลังทีมสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและสอบสวนพยานแวดล้อมกว่า 13 ปาก และไล่ดูจากกล้องวงจรปิด พอรู้ตัวแก๊งฆาตกรรมประกอบภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์รุ่นไทรตัน ทะเบียน ตต.9245 กรุงเทพฯ เข้ามาวิ่งใกล้ที่เกิดเหตุในเวลา 6 ทุ่มถึงตี 1 ของวันที่เกิดเหตุ จึงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเพียงพอไปขออนุมัติศาลจังหวัดบึงกาฬออกหมายจับบุคคลต้องสงสัยทั้ง 3 คน จากการสอบสวนเบื้องต้นนายทนงศักดิ์ โสกแก้วและนายสมุทร์ วันอุบล ยอบรับสารภาพว่า ได้ถูกพระบัญชาว่าจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท ให้ขับรถมาส่งที่สำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ โดยพวกตนทั้ง 2 นั่งรออยู่ในรถ ส่วนอดีตพระบัญชายังให้การภาคเสธ แต่ยังถูกควบคุมตัวสอบสวนต่อไปถึงสาเหตุเบื้องหลังการฆาตกรรมทั้งเป็นอย่างโหดเหี้ยมของพระสมจิต ในครั้งนี้