“บิ๊กอวบ” แถลงจับ 4 ผู้ต้องหาในเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ ยึดอุ้งเท้าและเล็บหมี กว่า 1,600 ชิ้น กะโหลกเสือ 4 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
วันนี้ ( 22 ม.ค. 62) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกัน แถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาในเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ ประกอบด้วย นายกะต่าย สีสุวัน อายุ 28 ปี สัญชาติลาว ,นายวราพงศ์ พันธ์แจ่ม อายุ 58 ปี ชาวไทย , นายเหงียน วัน เฮิบ อายุ 39 ปี สัญชาติเวียดนาม และนายธรรมนูญ คงดี พร้อมยึดของกลางเป็นซากสัตว์ป่า อาทิ เล็บของหมีขอ 1,666 ชิ้น จากหมี 83 ตัว กะโหลกเสืออีก 4 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
โดยชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบขนซากสัตว์ส่งออกนอกประเทศ โดยจะนำกระเป๋าบรรจุซากสัตว์โดยสารไปกับรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2562 เวลา 16.00 น. กลุ่มขบวนการได้นำซากสัตว์บรรจุกระเป๋าเดินทางส่งไปกับรถโดยสารประจำทางสาย กรุงเทพ-ปากเซ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกตรวจสอบรถคันดังกล่าวได้ที่บริเวณหน้าตู้บริการตำรวจทางหลวงวังน้อย ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นพบกระเป๋าวางอยู่บริเวณช่องเก็บของด้านหน้าหน้าคนขับ สอบถามพบว่า นายกะต่าย สีสุวัน สัญชาติลาว ผู้ต้องหา รับว่าเป็นผู้รับกระเป๋าใบดังกล่าวมา โดยมีชายชาวเวียดนามชื่อมิ้น เป็นผู้ประสานงานในการรับฝากและให้นำไปส่งให้กับชายชาวลาว อายุประมาณ 30 ปี ที่จะมารอรับกระเป๋าอยู่ที่ปากเซ
นอกจากนี้ ยังขยายผลเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ สามารถจับกุมตัว นายวราพงศ์ พันธ์แจ่ม และนายเหงียน วัน เฮิบ สัญชาติเวียดนาม ที่ทำหน้าที่จัดเก็บและบรรจุจัดส่ง ซากสัตว์ป่า พร้อมทั้งได้ตรวจค้นบ้านนายธรรมนูญ คงดี นายทุนที่รวบรวม ซากสัตว์ป่าต่างๆ และทำการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลานได้แก่ ซากเต่ากระ 2 ซาก และซากเต่าตนุ 1 ซาก ไว้เพื่อตรวจการอนุญาตครอบครอง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายธรรมนูญไว้แล้ว โดยการ สืบสวนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการลักลอบส่งซากสัตว์ป่าออกนอกประเทศมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง ส่วนเล็บหมีจะนำไปทำเครื่องราง และเครื่องประดับ จะมีราคาสูงถึง 5 เท่า
สำหรับขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติที่จับกุมได้นี้ เป็นขบวนการที่มีเครือข่ายกว้างขวาง มีการติดต่อค้าขายและสั่งการกันทางออนไลน์ มีเครือข่ายเชื่อมโยงหลายจังหวัดในประเทศไทย และเชื่อมโยงกับหลายประเทศ ทั่ง สปป.ลาว, เวียดนาม และจีน และมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้างาช้างที่จับกุมได้ที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผล ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาลงโทษทุกราย และให้มีการนำกฎหมายฟอกเงินมาบังคับใช้ เพื่อทลายเครือข่ายโดยเฉพาะนายทุน