ป้ามาลัยใช้ผ้าคลุมร่าง หนีออกจากจุดที่ถูกราดน้ำมันและจุดไฟเผา
ความคืบหน้าคดีแก๊งค้ายาบ้านโคกเมา ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา รุมซ้อมและจุดไฟเผาป้ามาลัย ชุมประมาณ อายุ 48 ปี อย่างโหดเหี้ยมเพราะไม่พอใจที่แอบนำยาไอซ์ไปละลายน้ำทิ้ง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในขนำที่พักของป้ามาลัย ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 5 คน คือนายส่อแหล๊ะ จิสวัสดิ์ อายุ 41 ปี, นางจันทิรา บินเสหาะ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน, นายยงยุทธ ชุมประมาณ อายุ 26 ปี ที่เป็นคนจุดไฟเผา, น.ส.ภัทราพร เพชรรัตน์ อายุ 29 ปี ที่ร่วมในเหตุการณ์ และนายแบงค์ เยาวชนอายุ 17 ปี ที่ขับรถไปรับป้ามาลัยจากบ้านลูกสาว ซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวได้แล้วเป็นคนแรก
วันที่ 12 ธ.ค. ช่วงเย็น ตำรวจ สภ.บางกล่ำ จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.ธิติ กิจรุ่งโรจน์ ผกก.สภ.บางกล่ำ พ.ต.ต.เอก พิพัฒน์เมธีกุล สว.สส. สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้อีก 1 คน คือ น.ส.ภัทราพร เพชรรัตน์ โดยตามไปจับกุมได้ที่บ้านพัก หมู่ 11 ต.ท่าช่าง อ.บางกล่ำ หลังได้รับรายงานว่า น.ส.ภัทราพร แอบกลับมาพักอยู่ที่บ้านหลังหลบหนีการจับกุม
จากการสอบสวน น.ส.ภัทราพร สารภาพแบบหมดเปลือกและบางช่วงก็อยู่ในอาการตกใจและร้องไห้ โดยให้การว่า คนที่ลงมือราดน้ำมันและจุดไฟเผาป้ามาลัย คือ นายยงยุทธ เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนตนเป็นคนไปซื้อน้ำมันเบนซินใส่ขวดมาให้เนื่องจากถูกบังคับเพราะยังเป็นหนี้ค่ายาเสพติดสองผัวเมียอยู่ด้วย
ในคืนเกิดเหตุตนกับนายแบงค์ขับรถจักรยานยนต์ไปรับป้ามาลัย จากบ้านลูกสาวในพื้นที่บ้านเสือผ่าน หมู่ 15 ต.ท่าช้าง พามาบนสะพานบ้านหนองจูด ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองระบายน้ำ หมู่13 ต.ท่าช้าง ซึ่งมีนางจันทิรา และนายยงยุทธรออยู่เพื่อที่จะสอบถามเรื่องยาไอซ์ที่ป้ามาลัยเอาไปจำนวน 3 ขีดหรือ 300 กรัม แต่ป้ามาลัยก็ไม่ตอบจึงลงมือแค่ตบตีเท่านั้น
ร่องรอยการราดน้ำมันและจุดไฟเผา
จากนั้นก็พาป้ามาลัยมาที่ขนำเกิดเหตุซึ่ง มีนายส่อแหล๊ะ เจ้าของยามาร่วมอีกคน ระหว่างนั้นมีการตบตีเพื่อข่มขู่ แต่ป้ามาลัยไม่ยอมตอบและพูดกวนประสาท นายยงยุทธจึงโมโหและราดน้ำมันจุดไฟเผา ซึ่งพวกตนทั้งหมดก็ตกใจมากและพยายามดับไฟช่วยเหลือด้วย ขณะที่ป้ามาลัยวิ่งลงจากขนำหนีไป ซึ่งปกติป้ามาลัยก็เป็นคนสติไม่ค่อยดีด้วย
มีผู้พบป้ามาลัยซ่อนตัวอยู่ท้ายรถกระบะคันหนึ่ง ก่อนช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยทารุณโหดร้าย และกระทำการหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำการประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
สำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คนซึ่งเป็นตัวการก่อเหตุ ตำรวจกำลังเร่งหาเบาะแสติดตามจับกุมพร้อมกับประสานญาติเพื่อให้เข้ามอบตัวแต่โดยดี
