ใครคิดว่า Gen Y นั้นทันสมัยวัยรุ่น เป็นอันว่าผิดถนัด เพราะ Gen Y ในสายตาคนรุ่นใหม่วัยใสนั้น ดูจะ ‘แก่’ ไปเสียแล้ว
สมัยนี้ถ้าต้องการจับคนรุ่นใหม่วัยมันส์ ต้องมุ่งไปสู่ลูกค้า Gen ‘Z’ ซึ่งอายุต่ำกว่า 23 ปี จึงจะเก๋ไก๋วัยสะรุ่นของจริง หรือดูง่ายๆ คือน้องกลุ่ม ม.ปลาย จนถึงมหาวิทยาลัย ซึ่งน้องๆ Gen Z นี้มักไม่ค่อยถูกกับพี่ๆ Gen Y ที่เป็นตัวแทนของตลาดวัยรุ่นมาหลายปีดีดักสักเท่าไร
ทั้งนี้เพราะความชื่นชอบและพฤติกรรมของ Gen Z นั้นไม่เหมือนใคร เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ในยุคดิจิทัลแท้จริงเป็นกลุ่มแรก คือรู้ความปุ๊บก็เข้ายุคดิจิทัล ดังนั้น การทำธุรกิจและการตลาดที่ต้องการจับกลุ่ม Gen Z จึงแตกต่างจากที่แบรนด์ต่างๆ ทำอยู่เดิม ว่าแล้วก็ขอเล่าให้ฟังดังนี้
ชอบหลักการ
ใครว่าเด็ก ‘สมัยนี้’ ใช้แต่อารมณ์เป็นตัวตั้งต้องพิจารณาใหม่ Gen Z นั้นมีลักษณะการคิดวิเคราะห์เป็นเหตุเป็นผล ชอบตริตรองข้อมูล เพราะการสื่อสารพูดคุยเกิดขึ้นจากคนหลากหลายบนโลกออนไลน์ แถมคุณพ่อคุณแม่ Gen X ของเขาก็อบรมให้ความรู้กันมาโดยใช้หลักเหตุผลมาก
การตลาดที่ใช้อารมณ์หวือหวาโดยไม่มีหลักการจึงไม่ค่อยโดนใจกลุ่มนี้ แต่การให้เหตุผลที่ควรซื้อเป็นข้อๆ อย่างชัดเจนจะจับ Gen Z ได้อยู่หมัดมากกว่า
ชอบเรียนรู้
ผู้เขียนเองเป็นครูสอนหนังสือมากว่า 15 ปี ผ่านช่วงสอนน้อง Gen Y จนเข้าสู่ Gen Z ได้เห็นว่า 2 กลุ่มนี้มีความชอบเรียนต่างกัน คือ Gen Z ดูจะชอบเรียนกว่า เพราะมักจะเข้าเรียนก่อนเวลาและตั้งอกตั้งใจเป็นพิเศษ แถมใฝ่รู้หาข้อมูลเพิ่มเอง และคอยไต่ถามไม่เคอะเขิน
ทั้งนี้เพราะ Gen Z ได้พบเจอสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากมายจนเป็นเรื่องปกติที่เขาจะทราบว่า การไม่เรียนรู้และไม่ปรับตัวจะเป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิตของเขามาก
นักธุรกิจจึงไม่ต้องเกรงกลัวการปรับแบรนด์การออกสินค้าใหม่ การสื่อสารรูปแบบใหม่ๆ กับกลุ่มนี้ เพราะเขาพร้อมที่จะรับและสนุกกับเรื่องใหม่ๆ เสมอ
ชอบรวดเร็ว
เมื่อ Gen Z เกิดมาในยุคที่มีแต่เรื่อง ‘สะดวก’ ทั้งร้านก็สะดวกซื้อ จ่ายเงินก็สะดวกชำระ ส่งของถึงกันก็สะดวกรวดเร็ว ฯลฯ การชักช้ามะงุมมะงาหราก็เลยเป็นปัญหาที่ Gen Z รับไม่ได้
เทคนิคการบริการที่ละเมียดเนิบช้า กระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป สินค้าล้านแปดที่ต้องรอคิวยาวนานจึงได้มาประมาณว่าช้าๆ ได้พร้าสองเล่มงามนั้น อย่าได้นำมาใช้กับGen Z เป็นอันขาด ธุรกิจทั้งหลายจึงต้องระวังให้มาก
ชอบรักษ์โลก
หลังจากหลาย Gen ได้ได้ทำร้ายโลกมามาก Gen Z จึงมีความรู้สึกว่าเขาถูกเอาเปรียบ และต้องมาแบกรับปัญหาขอโลกไว้มากมายโดยที่ตนไม่ได้ทำ
นอกจากจะเคืองใจกลุ่ม Gen เก่าแล้ว ก็ได้พยายามทำให้โลกนี้ดีขึ้น ไม่ให้ Gen ใหม่ๆ มาว่าเอาได้
สินค้าและบริการที่จะจับใจ Gen Z จึงต้องแสดงให้ชัดว่า ตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ทำร้ายทำลายโลก และร่วมสร้างสรรค์สังคมสิ่งแวดล้อมที่ดีไปกับชาว Gen Z
จะเห็นได้ว่า คำปรามาสที่ว่าวัยรุ่นนั้นรุ่งริ่ง เรื่อยเปื่อย อีลุ่ยฉุยแฉกนั้น ไม่จริงเอาเสียเลย น้องๆ ยุคใหม่ออกจะซีเรียสกับชีวิตอยู่มากเสียด้วยซ้ำ
Gen เดิมๆ เสียอีกที่ดูจะใช้ชีวิตสบายๆ กว่าน้องวัยรุ่น Gen Z ดังนั้น หากนำเอาความคิดคนรุ่นเดิมมาทำการตลาดกับคนรุ่นใหม่คงทำได้ไม่สำเร็จโดยเด็ดขาด คนรุ่นเดิมจึงต้องเข้าใจลูกค้ารุ่นใหม่และทำการตลาดอย่างระมัดระวัง ไม่นำตนเองไปเป็นที่ตั้ง เพราะท่านกับเขาไม่เหมือนกันเสียหน่อย
