วันที่ 19 ม.ค.เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ อ.งาว จ.ลำปาง พร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลำปาง 20 บ้านแม่หวดและบ้านแม่โป่ง รวมทั้งผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านปางหละ หมู่ 4 ต.บ้านหวด อ.งาว เข้าสอบสวนและจับกุมตัว นายซานติ้น แซ่ฟุ้ง อายุ 58 ปี หลังเผาไร่ที่ทำกิน แล้วไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาว ฝั่งขวา พื้นที่พิกัดที่ 47
เจ้าหน้าที่พบว่ามีพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้เสียหายไปกว่า 25 ไร่ คิดเป็นความเสียหายรวมกว่า 1.7 ล้านบาท
.
นายซานติ้น ยอมรับว่า เผาไร่ที่ทำกินด้วยตนเอง แล้วดับไฟไม่อยู่ ไฟลุกลามเข้าไปไหม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจริง
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.งาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 ในข้อหาเผาป่า หรือการกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต และจะนำตัวส่งฟ้องศาลและดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า เหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควันถือเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดในเขตภาคเหนือ 9 จังหวัด เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และยิ่งจะมีความรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤตในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.
.
จังหวัดลำปางได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวและมีเป้าหมายลดจำนวนจุดความร้อนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
.
ส่วนมาตรการบังคับในปีนี้ จังหวัดลำปาง ได้กำหนดช่วง 60 วัน ห้ามเผาในระหว่างวันที่ 1 มี.ค.ถึง 30 เม.ย. ซึ่งในช่วงกล่าวจะมีการใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ห้ามการจุดไฟเผาทั้งในพื้นที่โล่งแจ้ง และพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ศูนย์วอร์รูมไฟป่าลำปาง ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ปรากฏว่า มีการตรวจพบจุดความร้อนสะสม (Hotspot) ในพื้นที่จำนวนทั้งสิ้น 63 จุด สูงสุดที่อำเภอเถิน พบ 20 จุด อำเภอเสริมงาม 15 จุด ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ยังคงเกินมาตรฐานต่อเนื่องนานกว่า 15 วันแล้ว โดยสถานีตรวจวัดพื้นที่ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง วัดได้ 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมา ที่ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร , พื้นที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
