เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รักษาราชการ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ฝายทหาร ปกครอง ป.ป.ส. และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ สภ.แม่จัน และ สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรอีน 21 กิโลกรัม และรถกระบะขนยาเสพติดอีก 4 คัน พร้อมทั้งจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน นำตัวสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งการจับกุมครั้งนี้แบ่งเป็น 2 คดี ใน 2 พื้นที่
คดีแรกเป็นการจับกุมคาราวานรถกระบะขนยาบ้าจำนวน 15 ล้านเม็ด ซุกซ่อนมากับผ้าห่มและผ้าปูที่นอน เจ้าหน้าที่จับกุมได้ในพื้นที่เขตติดต่อ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย และ สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยเวลา 04.00 น. วานนี้ (22 ต.ค.61) กลุ่มคนร้ายขับรถกระบะลักษณะมีตู้ปิดท้าย ขับตีเปล่าตามกันมาหลายคันจาก จ.นครสวรรค์ มุ่งหน้าผ่านด่านกิ่วทับยั้ง อ.แม่จัน จ.เชียงราย คันแรกตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาพบว่าคันที่ 2 และ 3 เป็นรถลักษณะเดียวกันขับตามมาอีกและพบพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงติดตามกระทั่งจับกุมรถ 2 คันได้ที่บริเวณด่านตรวจกิ่วสะไต อ.แม่จัน จ.เชียงราย นำตัวคนขับ คือนาย อังคาร สุ่มคาย ช่วย.กำแพงเพชร และนาย ธีรภัทร แสงไทย ช่างกำแพงเพชรไว้ จึงนำตัวทั้ง 2 คนตรวจปัสสาวะผลปรากฎว่าเป็นสีม่วง สอบปากคำรับสารภาพว่าพร้อมกับพวกอีกหลายคนรับจ้างจะไปรับยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.แม่จัน ขับไปส่งที่กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่จึงส่งชุดสืบสวนขับออกตามหา และประสานไปยัง สภ.แม่อายให้ร่วมสกัดจับ กระทั่งสามารถจับกุมรถกระบะอีซูสุ รุ่นดีแม็กซ์ ดีแม็กซ์สีดำ ผก-9497 นครสวรรค์ หน้าตู้ยามตำรวจแม่สาว บริเวณถนนแม่จัน-ฝาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ภายในพบยาบ้า 48 กระสอบ จำนวน 4.8 ล้านเม็ด มีนายรักชาติ ตันแสน อายุ 31 ปี ชาว อ.แม่วงก์ จ.นครสรรค์ เป็นคนขับ สอบสวนขยายผลจนสามารถติดตามไปตรวจยึดยาบ้าที่กองไว้ในป่าละเมาะ บริเวณหมู่บ้านสันต้นดู่ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย ได้อีก 102 กระสอบ รวม 10.2 ล้านเม็ด รวมยาบ้าทั้งหมดมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท เพื่อรอให้รถมารับไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าส่วนอีกคดี เป็นการจับกุมเฮโรอีน ที่คนร้ายได้บรรจุกล่องส่งไปรษณีย์ไปยังประเทศไต้หวัน แต่ผ่านไป 2-3 เดือน ไม่มีผู้รับ ทางไต้หวันไม่ได้แกะกล่องแต่ตีส่งกลับมายังประเทศไทย ซึ่งเฮโรอีนดังกล่าว คนร้ายตบตาเจ้าหน้าที่โดยบรรจุมาในซองผงปรุงรสยี่ห้อหนึ่ง รวม 30 ถุง น้ำหนักรวม 21 กิโลกรัม ราคาขายบริเวณชายแดนกิโลกรัมละประมาณ 1 ล้านบาท ราคาส่งขายต่างประเทศอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งกล่องระบุว่าส่งจากที่ทำการไปรษณีย์เทอดไทย พื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จึงทำการตรวจยึดไว้เพื่อจะขยายผลติดตามคนร้ายที่ราบว่าชื่ออาหลูว่าเป็นเพียงคนส่งหรือตัวการใหญ่มาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รักษาราชการ ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ดูจากตัวยาบ้ามีสัญลักษณ์ 999 กับ Y1 เชื่อเป็นของกลุ่มว่าว้าแน่นอน เพราะคล้ายกับที่จับได้ที่พื้นที่ จ.เชียงราย เนื่องจากมีของสต็อกอยู่อีกมาก และอยู่ระหว่างพม่าเขากำลังเจรจรหยุดยิง จึงส่งเข้ามาบ้านเราเยอะ ส่วนผสมของยาก็เปลี่ยนจากเดิมไปใช้สารตั้งต้นที่ราคาถูกลงทำให้จำนวนการผลิตเพิ่มมากขึ้น นอกจากเป็นคนชนเผ่าปัจจุบันพบว่าคนขนเป็นคนไทย จากส่วนภาคกลางมารับของเอง และระยะหลังเป็นรถยนต์บรรทุก เป็นรถวิ่งเสริมของบริษัทโลจิสติกส์ที่มารับงานเสริม ซึ่งเรากำลังเข้าไปควบคุมในส่วนนี้นอกจากไปรษณีย์
นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า หลัง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ประสานการปราบปรามยาเสพติดร่วมกับทางการเมียนมา เพื่อปราบกวาดล้างยาเสพติดรวม 4 เมืองในเมียนมาและลาว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทำการกวาดล้าง เนื่องจากมีการกดดันในทั้ง 2 ประเทศ ยาเสพติดจึงทะลักเข้ามาในไทย จนเราทราบว่ามีความเคลื่อนไหวจะส่งยาล็อตนี้เข้ามาจากกลุ่ม พ.อ.จะลอโบ และนำมาพักไว้ที่เมืองยอน จึงประสานขยายผลจับกุมได้ ทั้งนี้ลูกเขย พ.อ.จะลอโบ คือนายวีระ หมื่นจะดา ที่ยังหลบหนีหากทราบข่าวขอให้มามอบตัวกับทางการ เพราะทางการประสานความร่วมมือกันเข้มข้นขึ้นในการสกัดจับกลุ่มขบวนการยาเสพติดและเตรียมเร่งดำเนินการติดตามยึดทรัพย์โบรกเกอร์ยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของระเบียบใหม่ ป.ป.ส.ให้เงินรางวัลผู้แจ้งความนำจับ 75% คนทำงาน 25% การจับแต่ละครั้งให้ไม่เกิน 2 ล้านบาท เพราะเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตราย และป้องกันการล่อแหลมต่อคนทำงานที่อาจทำผิดกฎหมาย จึงเน้นมอบให้ประชาชน 75% มากกว่า
