โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จับทอมแสบ เท้าแชร์ทอง พร้อมแม่ข่าย หลอกเหยื่อสูญกว่า 50 ล้านบาท

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 12 ธ.ค. 2562 เวลา 09.26 น. • เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2562 เวลา 09.25 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

จับสาวทอมเท้าแชร์ทองคำเมืองอุดรฯ พร้อมสาวแม่ข่าย หลอกเหยื่อลงทุนสูญกว่า 50 ล้าน ยอมรับโกง-หมดเงินไปไม่รอด ตร.หิ้วฝากขังผลัดแรก ค้านประกัน หวิดวุ่นเหยื่อฉุนตะโกนด่า ไม่ได้เงินคืนจะยิงให้ตาย  

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.62 ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี นายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับ น.ส.ภัทรกานต์ ขันทะชัย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 4 ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และ น.ส.อนงรัตน์ ดวงแจ่ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/3 หมู่ 5 ซอยบ้านหนองเตาเหล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 312-313/2562 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2562 โดยกล่าวหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 43/3 หมู่ 5 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อค่ำวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เบ็ญจมาภรณ์ ชุมเสน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 735/75 หมู่ 17 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมพวกรวม 59 คน เดินทางมาแจ้งความ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ว่า เมื่อ ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.อนงรัตน์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ซื้อทองคำได้ในราคาถูก 2 สลึง 8,400 บาท และนำไปขายต่อได้ราคาเต็ม 12,000 บาท ทำให้ได้กำไร" ตนจึงได้ไปลงทุนซื้อทองด้วย โดยโอนเงินทางเน็ตแบงก์ 4-7 วัน ได้รับทองรูปพรรณจริง โดยมีใบรับรองจากร้านขายทองแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี เมื่อนำไปขายได้กำไร จึงลงทุนเรื่อยมาและมาสะดุดเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ได้สั่งซื้อทองรวม 9 แสนบาท แต่ไม่ได้รับทองคำ เมื่อสอบถามก็ไม่ได้คำตอบ บอกแต่เพียงว่า น.ส.ภัทรกานต์ ซึ่งเป็นคนรับเงินไปซื้อทอง ยังไม่ได้รับทองจากร้าน ต่อมาได้โพสต์ลงในกลุ่มไลน์ว่า ไม่มีทองมาให้ และไม่มีเงินมาคืน ผู้ลงทุนจึงรวมตัวกันมาแจ้งตำรวจ

ด้าน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหาย 20 ราย พร้อมหลักฐานการโอนเงิน การสั่งซื้อทองคำและการส่งทองคำ ขออนุมัติศาลออกหมายจับและจับกุมตัว น.ส.ภัทรกานต์ หรือเอ๋ และ น.ส.อนงรัตน์ หรือเก๋ ได้ที่บ้าน ขณะนั้นมีผู้เสียหายกว่า 50 คน เสียหายคนละ 10,000-4,000,000 บาท บุกมาล้อมบ้านพัก น.ส.อนงรัตน์ บางส่วนเข้าไปสอบถามเอาเงินคืนด้วยความโกรธแค้น และพร้อมจะทำร้ายผู้ต้องหา ตำรวจจึงควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน

จากการสอบสวน น.ส.ภัทรกานต์ ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเป็นผู้จัดการนักร้องหมอลำ เคยซื้อทองในราคาต่ำกว่าทุนจากคนรู้จัก และนำไปขายได้กำไร เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทอง 2 สลึง 8,400 บาท น.ส.อนงรัตน์ จึงลองมาลงทุนเป็นคนแรก จากนั้นตนจะนำไปซื้อที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ในราคาเต็ม 12,000 บาท ให้ร้านทองส่งทองมาให้ นำไปขายได้กำไร 4000 บาท จากนั้น น.ส.อนงรัตน์ ก็ได้ชักชวนชาวบ้านมาลงทุนกว่า 128 คน โดยจะนำเงินจากคนที่ 3 มาซื้อทองให้คนที่ 2 เป็นงูกินหาง และตนได้นำบางส่วนไปซื้อรถยนต์เงินสด 2 คัน จองบ้านจัดสรร ต่อเติมบ้าน รวม 1.5 ล้าน ตนเริ่มทำได้เพียง 5 เดือน ก็ล้มไม่มีเงินไปซื้อทองมาให้ลูกค้า

"หนูคิดไปเองว่าถ้าตนทำยอดให้ร้านทองมากๆ ตนจะซื้อทองได้ในราคาถูก แต่ร้านทองก็ขายให้ตนในราคาปกติไม่มีการลดราคา ตนซื้อทองที่ร้านกว่า 50 ล้านบาท รู้ว่าจะต้องล้มเหมือนแชร์แม่มณี เมื่อเดือน ต.ค.เพราะเงินสะดุด พอถึงเดือน พ.ย.ก็รู้ว่าล้มแน่นอน เพราะไม่มีเงินมาซื้อทอง เงินในบัญชีก็ไม่มี เพราะระดมเงินมาซื้อทองแบบขาดทุน เงินส่วนมากจะนำไปซื้อทอง จึงยอมติดคุก เมื่อพ้นโทษออกมาจะหาเงินชดใช้ทุกคน"

ด้าน น.ส.อนงรัตน์ ยอมรับว่า เป็นทั้งแม่ข่ายและผู้เสียหาย เพราะลงทุนซื้อทองด้วย 2 ล้านบาท และชักชวนพ่อแม่พี่น้องมาร่วมลงทุนซื้อทองราคาถูกกว่า 2 ล้านบาท ตนเป็นแม่ข่ายเพราะได้กำไรจากการสั่งซื้อ โดยตนชักชวนคนมาซื้อทอง 2 สลึงในราคา 8,400 บาท ส่งให้ น.ส.ภัทรกานต์ 8,000 บาท ตนได้กำไร 400 บาท จากลูกข่าย 128 คน โดยจะส่งสลิปจ่ายเงินให้ลูกค้าดูทุกคนว่าโอนให้ น.ส.ภัทรกานต์ กำไรที่ได้รับนำไปซื้อรถ ซื้อบ้าน กระทั่งลูกค้าเริ่มไม่ได้รับทอง เมื่อเดือน ต.ค.-พ.ย. สุดท้าย น.ส.ภัทรกานต์ ก็ยอมรับว่าไปไม่รอด ไม่มีเงินคืนลูกค้า จึงถูกลูกค้าล้อมบ้านและถูกตำรวจจับ 

พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวนแล้ว จากนี้จะตั้งทีมชุดพนักงานสอบสวนขึ้นมารับเรื่องของคดีแชร์ทองนี้โดยเฉพาะ โดยมี พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เป็นหัวหน้าชุดที่จะนำพนักงานสอบสวนฝีมือดีจาก สภ.ต่างๆ มาร่วมทำคดี ซึ่งการทำงานจะเหมือนการทำคดีแชร์แม่มณี และหลังสอบปากคำผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนจะส่งตัวศาลเพื่อฝากขังผลัดแรก ซึ่งทางผู้ต้องหาจะขอประกันตัวหรือไม่เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ทางตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว

"นอกจากนี้ทางตำรวจได้อายัติทรัพย์สินของผู้ต้องหาไว้แล้ว ส่วนเรื่องเงินในบัญชีธนาคารกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบ เพราะว่าผู้เสียหายเพิ่งเข้าแจ้งความเมื่อวานนี้ ซึ่งน่าจะยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วยอีก ขอเวลาในการสอบปากคำผู้ต้องหาก่อน เพราะทางตำรวจเพิ่งจับกุมตัวมาได้ หากพบว่ามีคนเกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายเพิ่ม สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้ที่ สภ.มืองอุดรธานี ได้ตลอดเวลา" พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าว 

ทั้งนี้ขณะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน ได้มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ทราบข่าวทยอยมาแจ้งความและมาดูหน้าผู้ต้องหา โดย นายเทียนชัย (ของสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ศิลปินหมอลำ หนึ่งในผู้เสียหาย ได้เข้ามาด่าทอด้วยความโกรธแค้น หากไม่ได้เงินที่ลงทุนไป 3 แสนคืนจะตามไปยิงให้ตาย ไม่ยอมแน่นอน เพราะยืมเงินดอกร้อยละ 5 มาลงทุน 3 แสนบาท โอนครั้งแรก พ.ย.ก็มาโดนเบี้ยวเลย แค้นมากโกงคนจน มีแต่คนกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน ถ้าไม่ได้เงินคืนจะฆ่าให้ตาย.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0