โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

จับตา 10 เทรนด์การตลาดดิจิทัล ปี 63

The Bangkok Insight

อัพเดต 16 ต.ค. 2562 เวลา 00.53 น. • เผยแพร่ 15 ต.ค. 2562 เวลา 09.17 น. • The Bangkok Insight
จับตา 10 เทรนด์การตลาดดิจิทัล ปี 63

การตลาดดิจิทัล หรือ Digital Marketing เกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนส่วนต่างๆ จำนวนมาก อย่างเช่น เอสอีโอ (SEO) สื่อสังคมออนไลน์ การตลาดอัตโนมัติ และพีพีซี (PPC) ทั้งเทคโนโลยี หรือเทคนิคใหม่ ไม่เว้นแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงในกูเกิล และระบบอัลกอริธึมของเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่ช่วยทำให้ทีมการตลาดดิจิทัลจำนวนมากยังสามารถยืนหยัดต่อไปได้

ในการเข้าสู่ทศวรรษใหม่ 2020 นี้ เทคโนโลยียังคงเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และต่อไปนี้คือเทรนด์การตลาดดิจิทัล ที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมอย่างมากในปีหน้า

ฟีเจอร์ Shoppable

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า โซเชียลมีเดีย หรือสื่อสังคมออนไลน์ มีสัดส่วนข้างมากในการทำการตลาดออนไลน์ แต่สิ่งที่อาจจะยังไม่รู้กันก็คือเรื่องที่ว่า มีคนช้อปออนไลน์มากน้อยเท่าใด

ผลสำรวจระบุว่า ราว 60% ของผู้ใช้อินสตาแกรม (Instagram) บอกว่า พวกเขาเจอสินค้าใหม่บนอินสตาแกรม และเกือบ 70% ของผู้ใช้พินเทอเรสต์ (Pinterest) ที่ตอบแบบสอบถามมากกว่า 4,000 คน บอกว่า พวกเขาใช้พินเทอเรสต์ในการค้นพาผลิตภัณฑ์ใหม่

อย่างไรก็ดี นับเป็นเรื่องโชคดีสำหรับผู้ค้าออนไลน์ทั้งหลาย เพราะแพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ กำลังทำให้การใช้พลังของสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเฟซบุ๊ก พินเทอเรสต์ หรืออินสตาแกรม ตอนนี้ก็มีวิธีที่จะให้ร้านค้าอีคอมเมิร์ซทั้งหมด สร้างโพสต์ปักหมุดสำหรับการซื้อขายสินค้า หรือที่เรียกกันว่า shoppable posts เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงจากโพสต์ที่ขึ้นไว้ได้เลย

*เทคโนโลยีเออาร์ -วีอาร์ *

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งเทคโนโลยีเสมือนจริง (วีอาร์ – virtual reality) และความเป็นจริงเสริม (เออาร์ – augmented reality) กลายมาเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และผงาดขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของเทรนด์การตลาด ซึ่งในปี 2563 คาดว่า เออาร์จะได้รับความนิยมแซงหน้าวีอาร์ แม้ว่าในช่วงต้นๆ ปี วีอาร์จะยังนำอยู่ก็ตาม

บริษัทขนาดใหญ่จำนวนมาก ล้วนแต่นำเออาร์เข้ามาใช้งานแล้ว เช่น อิเกีย ที่พัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมา เพื่อเปิดทางให้ผู้ใช้งาน สามารถมองเห็นภาพเสมือนจริงว่า บ้านของตัวเองจะเป็นอย่างไร หากนำเฟอร์นิเจอร์ที่อยากซื้อเข้ามาวางไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริง

*คอนเทนต์อินเตอร์แอคทีฟ *

ในทุกวันนี้ เมื่อเข้าสู่โลกออนไลน บรรดาผู้ซื้อสินค้าต่างพากันมองหาประสบการณ์ใหม่  และสำหรับหลายๆ คน เรื่องดังกล่าวหมายถึงการมีปฏิกิริยาเชิงโต้ตอบที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ผลสำรวจชี้ว่า ในปี 2563 ผู้ซื้อ 91% จะมองหาคอนเทนต์ที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟ หรือเชิงโต้ตอบมากขึ้น ซึ่งคอนเทนต์การตลาดจะปรับเปลี่ยนเป้าหมายไปเพื่อให้ลูกค้าได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ

เหตุผลที่ทำให้คอนเทนต์อินเตอร์แอคทีฟเหล่านี้ติดเทรนด์การตลาดอันดับต้นๆ ของปีหน้า รวมถึง

  • มีเนื้อหาที่แตกต่าง และเป็นของใหม่
  • ทำให้ผู้ที่เข้ามาชมอยู่ในเพจนานขึ้น
  • เป็นคอนเทนต์ที่สามารถแชร์ออกไปได้อย่างหลากหลาย และเมื่อผู้ใช้งานแชร์เนื้อหาออกไป ก็จะช่วยเพิ่มการตระหนักถึงแบรนด์ได้มากขึ้น

ความเป็นส่วนบุคคล

ปี 2563 กำลังจะกลายเป็นปีแห่งการทำการตลาดส่วนบุคคล โดยผู้บริโภค กำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่ต้องเห็นโฆษณาทั่วไป ที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย วีธีแก้คือ ทำโฆษณาให้ตรงตามความต้องการส่วนบุคคล

90 % ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,000 คน บอกว่า พวกเขามองว่าการโฆษณาที่ตรงกับตัวพวกเขาเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ขณะ 80% ยอมรับว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะทำธุรกิจกับบริษัทที่นำเสนอประสบการณ์แบบส่วนบุคคลให้กับพวกเขา

การส่งอีเมล เป็นหนึ่งในวิธีการยอดนิยมสำหรับความพยายามในการทำการตลาดออนไลน์แบบส่วนบุคคล และให้ประสิทธิภาพดีกว่าการส่งอีเมลแบบหว่านแหไปทั่วถึง 3 เท่า

*กำหนดราคาอัจฉริยะกูเกิล แอดส์ *

ระบบอัตโนมัติไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับแวดวงทำการตลาดดิจิทัลแต่อย่างใด แต่การอัพเดท “กูเกิล แอดส์” ของกูเกิล มีแนวโน้มที่จะทำให้ระบบอัตโนมัติ และการกำหนดราคาแบบอัจฉริยะ (smart bidding) กลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับผู้จัดการบัญชีพีพีซี (PPC – Pay Per Click) ส่วนใหญ่

กูเกิล แอดส์ พึ่งพาแมชชีน เลิร์นนิง (machine learning) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเสนอราคาของคุณ และทำให้คุณได้รับความสามารถใหม่ๆ หลายอย่าง ที่จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดในการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง รวมถึง

  • ความสามารถที่จะเลือกเปลี่ยนตามแคมเปญ
  • ความสามารถที่จะกำหนดการเสนอราคาให้เปลี่ยนได้อัตโนมัติ เมื่อการขายเริ่มขึ้น หรือยุติลง
  • ความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคาในหลายแคมเปญด้วยชุดการเปลี่ยนแปลงที่เลือกไว้

*คอนเทนต์การตลาด *

นับเป็นเวลานานหลายปีแล้วที่ “คอนเทนต์คือราชา” เป็นรากฐานของการตลาดดิจิทัล และเมื่อเข้าสู่ปี 2563 คำพูดนี้ก็ยังเป็นความจริงอยู่

เนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ไม่เพียงแต่จะเปิดทางให้คุณสามารถแสดงถึงความรู้ และความเชี่ยวชาญ ต่อลูกค้าที่อาจบทความหรือเพจของคุณเท่านั้น แต่ยังจะเป็นเสิร์ชเอนจิ้น ที่วางไว้ในผลลัพธ์ของการค้นหาด้วย ดังนั้น การผลิตเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องจำเป็น

*คอนเทนต์วีดิโอ *

ลูกค้ามักให้การตอบสนองเป็นอย่างดีต่อคอนเทนต์ที่เป็นภาพ และการผลิตวีดิโอก็เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำการตลาดดิจิทัลในปี 2562 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563 และมีแนวโน้มที่จะไปไกลกว่านั้น

อย่ามองข้ามวีดิโอถ่ายทอดสด ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว การถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊ก ไลฟ์ และอินสตาแกรม ไลฟ์ จะทำให้ผู้ชมดูเนื้อหานานกว่าวีดิโอที่บันทึกไว้ถึง 3 เท่า โดยในเวลาเพียงปีเดียว กากรรับชมวีดีโอทางเฟซบุ๊ก ไลฟ์ ในแต่ละวันเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ทั้งยังทำให้เกิดการโต้ตอบมากกว่าวีดิโอทั่วไปถึง 6 เท่า

*ตำแหน่ง 0 ในการค้นหา *

การเป็นหมายเลข 1 ไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักอีกต่อไป

ตำแหน่งบนสุดบนหน้าแสดงผลลัพธ์การค้นหา (SERP – Search Engine Results Page) ในขณะนี้คือตำแหน่งศูนย์ (0) เป็นตัวอย่างข้อความที่ปรากฏเหนือผลการค้นหา ทั้งยังมีลิงค์เชื่อมต่อกับหน้าเว็บไซต์ที่ถูกดึงข้อมูลมาด้วย

ตำแหน่งศูนย์เป็นตำแหน่งที่ 1 เป็นผลลัพธ์ที่ผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งจะดู ดังนั้น จึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก และควรเป็นเป้าหมายในความพยายามทำการตลาดดิจิทัลของคุณ

ค้นหาด้วยเสียง

ปัจจุบัน ผู้ใหญ่อเมริกันมากกว่า 25% มีลำโพงอัจฉริยะ อย่าง อเมซอน เอคโค หรือ กูเกิล โฮม นอกจากนี้ 31% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลก ก็ใช้เสียงในการค้นหา อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งมีการประเมินว่า ในปี 2563 ราว 50% ของการค้นหาทั้งผล จะเป็นการค้นหาด้วยเสียง ทำให้ระบบนี้เป็น 1 ในแนวโน้มการตลาดออนไลน์สำหรับปีหน้า

แอปโซเชียล แมสเซจ

แอปพลิเคชันโซเชียล มีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก แมสเซนเจอร์ วีแชท และวอทส์แอป ไม่ได้เป็นเพียงการส่งข้อความคุยกับเพื่อนๆ อีกต่อไป โดยแอปพลิเคชันแหล่านี้ กลายมาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับภาคธุรกิจ ที่จะนำไปติดต่อสื่อสารกับลูกค้า

ตามความเป็นจริงแล้ว ในแต่ละเดือน เฟซบุ๊ก แมสเซนเจอร์ มีการส่งข้อความติดต่อกันระหว่างบุคคลทั่วไป กับธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านครั้ง

แอปพลิเคชันส่งข้อความ กลายมาเป็นเครื่องมือที่ภาคธุรกิจให้ความนิยม เพราะลูกค้าพบว่า เป็นช่องทางที่สะดวกสบายสำหรับการติดต่อโดยตรงกับบริษัทต่างๆ ทั้งยังเป็นช่องทางที่ดีอย่างมากสำหรับการทำการตลาดส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่ลูกค้าชื่นชอบ

ที่มา : TheeDigital ; Forbes

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0