โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จับตาวิกฤติค่าเงินลีรา หวั่นกระทบแบงก์ยูโรโซน

เดลินิวส์

อัพเดต 15 ส.ค. 2561 เวลา 05.34 น. • เผยแพร่ 15 ส.ค. 2561 เวลา 04.59 น. • Dailynews
จับตาวิกฤติค่าเงินลีรา หวั่นกระทบแบงก์ยูโรโซน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยตุรกีอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนแทนการแซงแทรกตลาดคุมเงินทุนเคลื่อนย้าย ชี้แบงก์ยุโรปเสี่ยงรับผลกระทบวิกฤติค่าเงินลีราลุกลาม

รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า สถานะการเงินของประเทศตุรกีกำลังอยู่ในช่วงระส่ำระส่าย ท่ามกลางค่าเงินลีราที่ปรับร่วงลงอย่างมาก หลังนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจตุรกีที่กำลังเผชิญกับปัญหารอบด้าน ทั้งปัญหา เสถียรภาพของเศรษฐกิจที่เรื้อรัง ตลอดจน ความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองที่เข้ามากระทบ  สำหรับเศรษฐกิจของตุรกีพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากนอกประเทศในระดับสูง เป็นผลจากการ ดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนในอดีตทำให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรง ส่งผลให้ภาคธุรกิจมีการพึ่งพาเงินทุนจากนอกประเทศในสัดส่วนที่สูงและหากพิจารณาหนี้ต่างประเทศในภาพรวมที่มี ขนาด 4.7แสนล้านดอลลาร์ฯ หรือ 53.7% ของจีดีพี โดย 1 ใน 4 ของหนี้ดังกล่าวเป็นการกู้ยืมในระยะสั้น คิดเป็นมูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบหากนักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่น 

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสัดส่วนของการกู้ยืมตามประเภทของนักลงทุนพบว่ากว่า 2 ใน 3 ของปริมาณของหนี้ต่างประเทศคงค้างเป็นการกู้ยืมโดยภาคเอกชน มีสัดส่วนการกู้ยืมตรงของภาคธุรกิจ กับการกู้ยืมจากสถาบันการเงินในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้การกู้ยืมของภาคเอกชนในตุรกีพบว่ากว่า 40% ของการกู้ยืมเป็นการกู้ในเงินสกุลต่างประเทศ เป็นการตอกย้ำถึงอัตราส่วนการพึ่งพาเงินทุนนอกประเทศที่อยู่ในระดับสูง

ต้นทุนการเงินของประเทศปรับขึ้นอย่างรวดเร็วและอยู่ระดับสูง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจาก อัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้น รวมทั้ง การไหลออกของเงินทุน ส่งผลให้ธนาคารกลางตุรกีปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 8 % ณ ต้นปี  61 มาอยู่ที่ระดับ 17.75% ในวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับขึ้นเกือบเท่าตัวจากระดับประมาณ11% ในช่วงต้นปีมาอยู่ที่ระดับเกือบ 22% ในปัจจุบัน ทั้งนี้ด้วยต้นทุนการเงินที่อยู่ในระดับสูงส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจได้ ขณะที่เครื่องมือในการดูแลเศรษฐกิจของตุรกีมีจำกัดมากจากระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ใน ระดับต่ำที่ 1.3แสนล้านดอลลาร์ฯ เทียบกับภาระหนี้ต่างประเทศระยะสั้นที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 100% ซึ่งระดับเงินทุนส ารองระหว่างประเทศที่มีไม่มาก ส่งผลให้ทางการไม่สามารถที่จะเข้ามาดูแล เสถียรภาพของค่าเงินลีราได้  

แม้ว่าสถานการณ์ค่าเงินลีรา จะคลายตัวลง แต่ประเด็นด้านเสถียรภาพยังคงมีอยู่ทำให้ทางการ ตุรกีต้องเร่งแก้ปัญหาพื้นฐาน นั่นคือการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก โดยเป็นไปได้ ว่าธนาคารกลางตุรกีอาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งแม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวคงจะทำให้เศรษฐกิจตุรกีชะลอตัวลง แต่ก็น่าจะได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนมากกว่ามาตรการแทรกแซงตลาดเช่น การควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้าย ทั้งนี่้ต้องยอมรับว่า ด้วยขนาดเศรษฐกิจของตุรกีที่มีขนาดประมาณ 8.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ หรือ คิดเป็น 1.1% ของเศรษฐกิจโลก โดยมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจของกรีซ ไอร์แลนด์ และ โปรตุเกสรวมกัน ทำให้ประเด็นเสถียรภาพของตุรกีย่อมจะมีน้ำหนักพอสมควรต่อสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

ทั้งนี้หากตุรกีเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ อาจจะส่งผลต่อตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะภาคธนาคารของยุโรป เนื่องจากภาคธนาคารในยุโรปกับตุรกีมีความเชื่อมโยงกันในระดับค่อนข้างสูง  ซึ่งสเปน และฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารพาณิชย์บางแห่งในตุรกี และมีความเกี่ยวเนื่องทางการเงินกับตุรกีในระดับสูง นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศในยูโรโซนที่ถือหุ้น หรือมีสาขาของธนาคารในตุรกี ซึ่งหากวิกฤติค่าเงินลีรา ลุกลามออกไปจนส่งผลให้ภาคธนาคารตุรกีเกิดวิกฤติ อาจจะส่งผลให้ภาคธนาคารในยูโรโซนอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0