แลนด์มาร์คสำคัญทั่วโลกล่าสุดต่างร่วมเปิดไฟส่องสว่างเป็นสัญลักษณ์แห่งการขอบคุณ ความสามัคคีและความหวัง ในช่วงเวลาที่โลกเผชิญวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านคนทั่วโลกและเสียชีวิตแล้วเกิน 6 หมื่นคน
เริ่มที่ตึกเอ็มไพร์สเตต ในมหานครนิวยอร์ก อันถือเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสชนิดนี้ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก ในยามค่ำคืนช่วงนี้ที่นี่มีการเปิดไฟสีแดงเหมือนไฟไซเรนของรถฉุกเฉิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงการเต้นของหัวใจและการดำรงอยู่ของสหรัฐ รวมทั้งเพื่อสะท้อนถึงการทำงานแบบไม่หยุดพักของเหล่าแพทย์พยาบาลในช่วงเวลานี้
เช่นเดียวกับ หอไอเฟล แห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แม้ในช่วงปิดเมือง แต่หอไอเฟลในทุกค่ำคืนช่วงนี้สว่างเรืองรองเป็นสีทองจับตา พร้อมปรากฎข้อความภาษาฝั่งเศสว่า Merci (แมกซี่) หรือ ขอบคุณ แทนคำขอบคุณที่ทุกคนมีต่อบุคลากรการแพทย์ผู้เป็นฮีโร่รับมือการระบาดของไวรัส
ส่วนที่ชิงช้าสวรรค์ลอนดอนอาย หรือ มิลเลเนียมวีล ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในยุโรป รวมถึง สะพานทาวเวอร์บริดจ์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่างพร้อมใจเปิดไฟสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำสัญลักษณ์ของหน่วยงานบริการสุขภาพ (NHS) เพื่อแสดงถึงความขอบคุณและการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์เช่นกัน
ขณะที่ ยอดเขามัทเธอร์ฮอร์น บนเทือกเขาแอลป์ บริเวณพรมแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี มีผลงานแสงสีของศิลปินชาวสวิสเป็นเหมือนธงที่มีข้อความ #hope หรือความหวัง โบกสะบัดอย่างสง่างามเหนือยอดเขา
ปิดท้ายที่ รูปปั้นพระเยซูหรือพระคริสต์ผู้ไถ่ (Christ of Redeemer) ที่นครริโอ เดอ จาไนโร ประเทศบราซิล ปรากฎเป็นธงชาติต่างๆ จากทั่วโลกตลอดทั้งรูปปั้นความสูง 38 เมตรหรือ 125 ฟุต เพื่อแสดงให้เป็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโลกในช่วงเวลาวิกฤตินี้
News & Photo Credit: People
เกาะติดข่าวบันเทิงที่นี่
Facebook : True Inside HD
Twitter : true_insidenews
Youtube Official : TrueVisionsOfficial
Instagram : True_insidenews
Website: www.TNNThailand.com
True Visions 02-700-8000