โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จันทรายาน-2 ของอินเดีย เตรียมลงจอดบนดวงจันทร์เป็นชาติที่ 4 หลังขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ

THE STANDARD

อัพเดต 23 ก.ค. 2562 เวลา 01.45 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 01.45 น. • thestandard.co
จันทรายาน-2 ของอินเดีย เตรียมลงจอดบนดวงจันทร์เป็นชาติที่ 4 หลังขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ
จันทรายาน-2 ของอินเดีย เตรียมลงจอดบนดวงจันทร์เป็นชาติที่ 4 หลังขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ

วานนี้ (22 ก.ค.) อินเดียประสบความสำเร็จในการส่ง ‘มูน มิชชัน-2 (Moon Mission-2)’ หรือ ‘จันทรายาน-2 (Chandrayaan-2)’ ขึ้นสู่วงโคจรโลกแล้ว หลังภารกิจในวันที่ 15 กรกฎาคม ถูกยกเลิกไป เนื่องจากเกิดความขัดข้องทางเทคนิค

 

“ยานปล่อยดาวเทียม MkIII-M1 ที่บรรทุกจันทรายาน-2 ได้ถูกยิงขึ้นสู่อวกาศจากเกาะศรีหาริโคตรแล้ว” องค์กรวิจัยอวกาศแห่งอินเดีย (ISRO) ทวีตข้อความ พร้อมยืนยันว่า ยานเป้าหมายที่ส่งขึ้นไปได้เข้าสู่วงโคจรค้างฟ้า (GTO) หรือวงโคจรโลกแล้ว

 

จรวด ‘GSLV-Mk-III’ ซึ่งบรรทุกยานโคจร ยานลงจอดวิคราม และยานสำรวจปราคยาอัม ได้ถูกยิงออกจากศูนย์อวกาศตีศธวันบนเกาะศรีหาริโคตร นอกอ่าวเบงกอล ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอานธรประเทศ ทางใต้ของอินเดีย เมื่อเวลา 14.43 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

ทั้งนี้ อินเดียคาดว่า ยานลงจอดและยานสำรวจทั้งสองจะตกลงสู่พื้นที่ใกล้ขั้วโลกใต้ของดวงจันร์ในช่วงต้นเดือนกันยายน และกลายเป็นยานอวกาศลำแรกที่ลงจอดในพื้นที่ดังกล่าว

 

หากปฏิบัติการลุล่วง อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่ 4 ที่ลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จ รองจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีน

 

‘มูนมิชชัน’ มีมูลค่าเกือบ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.62 พันล้านบาท) มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับน้ำ แร่ธาตุ และการก่อตัวของหินบนพื้นผิวดวงจันทร์

 

ในช่วงเช้าของวันจันทร์ บรรดานักวิทยาศาสตร์ขององค์กรฯ ยังได้จัดพิธีสวดภาวนาในวัดหลายแห่งที่อยู่ใกล้ฐานส่งจรวด พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างในสัปดาห์ที่แล้ว

 

องค์กรฯ ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับจรวด GSLV-Mk-III ว่ามีน้ำหนักราว 640 ตัน ความยาว 44 เมตร หรือสูงกว่าอาคาร 15 ชั้น เรียกได้ว่าเป็นจรวดที่มีน้ำหนักมากที่สุดและใหญ่ที่สุดของอินเดีย อีกทั้งมีความสามารถในการปล่อยดาวเทียมที่มีน้ำหนักมากถึง 4 ตัน

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • สำนักข่าวซินหัว
0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0