เมื่อวันที่ 20 ก.พ. กรมการปกครอง โดยสำนักการสอบสวนและนิติการ ส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 4 และศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ได้จัดประชุม เพื่อแนวทางแก้ไขปัญหาตู้คีบตุ๊กตาที่เข้าข่ายเป็นการพนัน ตามที่กรมการปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน และเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กลุ่มนักเรียนนักศึกษากว่า 30 คน ที่ได้ยื่นจดหมายถึงนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ผ่านนายพิริยะ ฉันทดิลก รองอธิบดีกรมการปกครอง เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาตู้คีบตุ๊กตาที่เข้าข่ายการพนันหลังสำรวจพบว่ามีมากถึง 1,551 ตู้ ใน 75 ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และกำลังนำเข้าประเทศอีกจำนวนมาก
โดยวันนี้ นายพิริยะ ฉันทดิลก รองอธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานการประชุมและได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์ สมาคมผู้ค้าปลีก สมาคมผู้ประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า รวมถึงผู้ประสานงานจากเครือข่ายดังกล่าวข้างต้น เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรค ข้อกฎหมายต่าง ๆ และหาทางออกร่วมกัน ทั้งนี้ กรมการปกครองได้กำชับให้ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า กวดขันและสอดส่องดูแลการให้บริการความบันเทิงในสวนสนุกของห้างสรรพสินค้า ให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย รวมถึงควบคุมการให้บริการแก่เด็กและเยาวชน โดยคำนึงถึงผลดี ผลเสีย ที่จะกระทบกับเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ
“เครื่องเล่นตู้คีบคุ๊กตา” มีวิธีการเล่น คือ ผู้เล่นนำเหรียญไปหยอดที่ช่อง แล้วจับคันโยกเลื่อนหาตำแหน่งเพื่อคีบตุ๊กตา จากนั้นกดปุ่มเพื่อให้ที่คีบตุ๊กตาปล่อยตุ๊กตาลงช่อง โดยการเล่นในแต่ละครั้งผู้เล่นอาจจะได้หรือไม่ได้ตุ๊กตา เป็นการพนันที่อยู่ในบัญชี ข. ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ในลำดับที่ 28 การจัดให้มีการเล่นพนันดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตก่อนจึงจะเล่นได้ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยมีนโยบายห้ามมิให้ออกใบอนุญาตจัดให้มีการพนัน เครื่องเล่นตู้คีบตุ๊กตา
ในส่วนของหน่วยงานราชการ จะได้มีการเร่งกวดขันจับกุม ปราบปรามผู้ลักลอบ กระทำความผิดทุกรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เยาวชนร้องจัดระเบียบตู้คีบผิดกม.มอมเมาพนัน
ขอบคุณกรมการปกครอง