โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

จะรอดไหม!! ทาครีมกันแดดไม่มีเคมี VS มีเคมี และไม่แต่งหน้า ผิวปังหรือพัง?

AKERU

อัพเดต 16 ธ.ค. 2562 เวลา 01.45 น. • เผยแพร่ 16 ธ.ค. 2562 เวลา 01.45 น.
จะรอดไหม!! ทาครีมกันแดดไม่มีเคมี VS มีเคมี และไม่แต่งหน้า ผิวปังหรือพัง?
สวัสดีค่ะทุกคน วนกลับมาเจอกับอะเครุรีวิวกันอีกแล้ว วันน …

สวัสดีค่ะทุกคน วนกลับมาเจอกับอะเครุรีวิวกันอีกแล้ว วันนี้เรามาใน Topic ที่หลายๆ คนมองข้ามและคิดว่าไม่สำคัญซึ่งก็คือเรื่องของประเภทครีมกันแดด เพื่อนๆ รู้ไหมว่าครีมกันแดดในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกทั้งแบบ Physical, Chemical และแบบผสม แต่เอ๊ะ..แล้วแต่ละประเภทต่างกันยังไงนะ? วันนี้เราเลยจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างครีมกันแดดประเภท Physical และ Chemical หรือพูดง่ายๆ ก็คือครีมกันแดดแบบไม่มีเคมีและแบบมีเคมีกันนั่นเอง

ใครเคยซื้อครีมกันแดดโดยเลือกจากประเภทของครีมกันแดดกันบ้าง? เชื่อว่ามีน้อยมากที่ดูจากตรงนี้ เพราะคนส่วนมากมักเลือกจากราคาหรือยี่ห้อที่คนนิยมใช้กันซะมากกว่า แต่เราจะมาบอกถึงความแตกต่างของครีมกันแดดทั้ง 2 ประเภทนี้ว่ามันก็สำคัญนะ โดยการลองทาครีมกันแดดแบบ Physical กับ Chemical อย่างละครึ่งหน้า และไม่แต่งหน้าเลย เป็นเวลา 1 สัปดาห์ แล้วมาดูผลลัพธ์แบบเจาะลึกกันว่าจะรอดหรือไม่!?

อย่างที่บอกว่าเราจะรีวิวเปรียบเทียบครีมกันแดดแบบ Physical และ Chemical อย่างละครึ่งหน้า สำหรับกันแดดแบบไม่มีเคมีขอเลือก Smooth E Physical White Babyface UV & Pollution Shield มาทดสอบ ส่วนแบบ Chemical ขอไม่ระบุแบรนด์แล้วกัน เพราะเป็นกันแดดประเภทที่มีให้เลือกซื้อหลายแบรนด์มากๆ ถือเป็นส่วนใหญ่ในท้องตลาดเลย และเพื่อให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน เราจะสแกนผิวหน้าก่อนและหลังใช้ครีมกันแดด 1 สัปดาห์ด้วยเครื่องวิเคราะห์สภาพผิว 8 มิติ (VISIA Complexion Analysis) ซึ่งแสดงให้เห็นสภาพผิวหน้าและความเปลี่ยนแปลงได้ละเอียดสุดๆ

ครีมกันแดดแบบ Physical และ Chemical

ก่อนอื่นขออธิบายความต่างของกันแดดทั้ง 2 ประเภทนี้แบบสั้นๆ ก่อนนะคะ

  • ครีมกันแดดแบบ Physical (ไม่มีเคมี): เรียกอีกอย่างว่า Non-chemical คือครีมกันแดดที่เมื่อทาแล้วเนื้อครีมจะเคลือบผิวของเราไว้เหมือนเกราะป้องกัน และสะท้อนรังสียูวีออกจากผิวหน้าหรือกระเด้งออกไป เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่ายเพราะมีโอกาสแพ้ค่อนข้างน้อย
  • ครีมกันแดดแบบ Chemical (มีเคมี): ครีมกันแดดที่เมื่อกระทบกับรังสียูวีจะดูดซับรังสีนั้นเอาไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน และเนื่องจากการทำปฏิกิริยากับผิวเช่นนี้ จึงมีโอกาสแพ้หรือระคายเคืองได้

รีวิวครีมกันแดด ไม่มีเคมี VS มีเคมี

(ไม่แต่งหน้า 1 สัปดาห์)

สภาพผิวก่อนเริ่มรีวิว

ผู้รีวิวสภาพผิวมันค่ะ มีจุดด่างดำ รอยแดงจากสิวประปราย ส่วนริ้วรอยส่วนมากก็มาจากรอยสิวนี่แหละ ลองทาครีมกันแดดอย่างละครึ่งหน้า แล้วไปสแกนผิวหน้าหลังผ่านไป 4 ชั่วโมง ดูซิว่าสภาพผิวของเราเป็นอย่างไรบ้าง

*ผลจากเครื่อง VISIA Complexion Analysis

ขออธิบายก่อนค่ะว่าผลของเครื่อง VISIA ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ออกมานี้ ถ้าเปอร์เซ็นต์ยิ่งสูงยิ่งดี แต่ถ้าผลลัพธ์ในเรื่องไหนได้ต่ำกว่า 50% ก็จะถือว่าเราเริ่มปัญหาผิวในเรื่องนั้นๆ แล้ว และต้องดูแลผิวโดยด่วนก่อนที่เปอร์เซ็นต์จะลดน้อยลงกว่านี้

อะๆ มาดูผลกันดีกว่า ยอมรับว่าตกใจมาก! ปกติก็ทาครีมกันแดดบ่อยนะ (แต่บางวันลืมทา) ผลออกมามี UV Spots 11% ซึ่งต่ำมาก เข้าขั้นวิกฤติแล้ว (UV Spots คือ ผลของการดูดซับรังสี UV จากผิวหนังชั้นนอก ทำให้มีการแสดงผลและตรวจจับจุด UV ที่อาจเกิดจากการทำลายของแสงแดด) ส่วนริ้วรอยและจุดด่างดำก็มีบ้างเพราะเป็นสิวบ่อย โดยเฉพาะช่วงมีรอบเดือน

ผลหลังทากันแดด 1 สัปดาห์

*ผลจากเครื่อง VISIA Complexion Analysis

มาดูเห็นผลกระทบในระยะยาวกัน หลังจากมีวินัยทาครีมกันแดดมา 1 อาทิตย์เต็มๆ และไม่แต่งหน้าเลย ผลคือเปอร์เซ็นต์ของ UV Spots เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จาก 11% เป็น 73% ยิ่งฝั่งที่ใช้กันแดดแบบ Physical ยิ่งเห็นชัดเจนว่าจุดส้มๆ ลดน้อยลงจากตอนสแกนครั้งแรก สมูทอีเค้ากันแดดดีจริงๆ ส่วน Spots และ Wrinkles (ริ้วรอย) ก็ดีขึ้นจากการทากันแดด แต่ฝั่ง Physical จุดด่างดำดูดีขึ้นมาก เซอร์ไพรส์สุดๆ และที่สำคัญ ฝั่งขวาที่ทา Smooth E เป็นสิวผด ผื่นแพ้น้อยลงด้วย ปลื้มใจกับความมีวินัยของตัวเอง 5555

พอไปเช็คสภาพผิวแบบนี้ก็รู้เลยว่าครีมกันแดดสำคัญมากนะทุกคน ควรทาทุกวันเลย แม้ว่าจะอยู่แต่ในร่ม เราก็เจอแสงจากหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เช่นกัน ละเลยไม่ได้จริงๆ และถ้าให้เลือกก็จะเลือกใช้ครีมกันแดดแบบ Physical นี่แหละ ผิวปังมากจ้า

ทำความรู้จัก Smooth E Physical UV & Pollution Shield

เห็นผลลัพธ์แล้ว คงอยากรู้จักเจ้าสมูทอีตัวนี้แล้วล่ะสิ Smooth E Physical White Sunscreen UV & Pollution Shield SPF50+ PA+++ เป็นครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ ควันรถ หรือแม้แต่ฝุ่น PM 2.5 และแน่นอนว่าเป็นสูตรไม่มีเคมี 100% Non-Chemical รวมถึงมีสารสำคัญของวิตามินซี ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เพราะเป็นเวชสำอางธรรมชาติ

เนื้อครีมกันแดด

เนื้อครีมสีขาวข้น แทบไม่มีกลิ่น ตอนเกลี่ยเนื้อบางเบาซึมง่าย เกลี่ยแป๊บเดียวก็ซึมเข้าผิว ตอนแรกเห็นเนื้อขาวๆ นึกว่าจะวอก แต่ไม่เลย แล้วก็ไม่ทิ้งความเหนอะๆ มันๆ ไว้ด้วย คนผิวมันมากแบบเราชอบมากกก เนื้อครีมทาแล้วไม่เป็นขุย สามารถแต่งหน้าต่อได้เลย

ก่อน-หลังทากันแดดสมูทอี

เห็นไหมว่าหลังทาหน้าไม่วอกเลย แต่จะดูชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย แอบช่วยเบลอรูขุมขนเบาๆ ในกล้องผิวดูเนียนขึ้นเลย และระหว่างวันก็ไม่ทำให้หน้ามันหรือดรอป หน้าไบรท์ทั้งวันเลยจ้า

คะแนนผลิตภัณฑ์

Smooth E Physical White Sunscreen

  • ความเบาบาง: 5/5
  • ซึมง่าย: 5/5
  • ไม่ทำให้หน้าวอก: 5/5
  • ควบคุมความมัน: 4/5
  • สิวผดลดลง: 4.5/5

ทั้งนี้ขอบคุณศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์  iSky Center ที่ให้เราเข้าไปสแกนผิวหน้าด้วยเครื่องวิเคราะห์สภาพผิวเพื่อรีวิวนี้ด้วยนะคะ ได้เห็นสภาพผิวแบบเจาะลึกสุดๆ ใครอยากรู้ว่าสภาพผิวหน้าของตัวเองเป็นอย่างไร ควรแก้ไขหรือดูแลที่จุดไหนเป็นพิเศษก็สามารถเข้าไปปรึกษาที่ iSky Center หรือสอบถามผ่าน FB: iSKYcenter, Line ID: @iskycenter ได้เลย พี่ๆ น่ารักเป็นกันเองมาก มีบริการหลากหลาย ทั้งรักษาสิว, โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์, เลเซอร์กระชับช่องคลอด, เลเซอร์รักษาริ้วรอยและแผลหลุม, Themage หรือการสลายไขมันก็มี แถมมีหลายสาขา นอกจากสาขาแยกไฟฉายที่เราไปก็ยังมีที่ชิดลมและหนองแขมด้วยนะ

ใครอยากลองใช้กันแดดแบบไม่มีเคมีไปตามตำกันได้
390 บาทเท่านั้น (18 g.) ซื้อได้ที่ร้านขายยา P&F และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป
เจอบ่อยมาก หาไม่ยากๆ

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0