ไม่ว่าต้นฉบับนี้จะลง Rabbit Today ในเดือนไหน ลิเวอร์พูลก็จะยังไม่เป็นแชมป์อย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะทิ้ง 4 หรือ 7 แต้ม, 5 หรือ 9 คะแนน!
ในขณะที่ผมเขียนบทความนี้ วันที่ 28 มกราคม 2019 หงส์แดงนำจ่าฝูงด้วยระยะห่าง 4 แต้ม และสังคมแฟนบอลส่วนหนึ่ง เกิดอาการ Mass Hysteria หรือแปลเป็นไทยคือ ‘อุปาทานหมู่’ อาการแบบนี้ เห็นได้จากสื่อมวลชน แฟนบอล เพื่อนผม คนรอบตัว มิตรสหายมากมาย ต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงการไปฉลองแชมป์กลางเดือนพฤษภาคมปีนี้
ที่ตามมาด้วยความกลุ้มใจว่า จะไปอย่างไรเพราะไม่มีตั๋วนัดสุดท้าย เตะที่แอนฟิลด์!
อาการอุปาทานหมู่คือคิดกันไปก่อนเองว่าเป็นแบบนั้น คล้ายๆ แฟนหนัง Black Panther อุปาทานหมู่ไปว่า หนัง Superhero เสือดำเรื่องนี้จะคว้าออสการ์หลายสาขา พร้อมกับฉลองการเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์แนว Superhero เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ ที่ชนะ Best Picture
แต่ ‘หงส์แดง’ ไม่ได้อุปาทานหมู่มากแบบ ‘เสือดำ’
ปลายเดือนมกราคม ลิเวอร์พูลทิ้งอยู่ 4 แต้ม เหลือโปรแกรมอีก 15 นัด หรืออีก 40% เงื่อนไขแบบนี้ แทบจะเรียกว่า 50-50 ด้วยซ้ำ ยิ่งมองย้อนกลับไปในอดีต มี 5-6 เหตุการณ์แบบเดือนกุมภาพันธ์ จ่าฝูงทิ้ง 12-13 คะแนน หรือเดือนเมษายน จ่าฝูงทิ้ง 6-8 แต้ม…ล้วนแห้วมาถ้วนหน้าก็เคยมี!
แต่เอาใหม่ สมมติว่าลิเวอร์พูลจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ เพราะโชว์ฟอร์มดี บวกโชควาสนา อย่างน่าสนใจว่า อาจจบสิ้นการรอคอย 29 ปีเสียที คนที่จะไปดูนัดฉลองแชมป์จะทำอย่างไรดี
ผมค่อนข้างคลุกคลีอยู่กับเรื่องจัดทัวร์ไปดูบอลมากในระดับหนึ่ง เพราะใน 1 ปีย้อนหลังกลับไป ผมจัดไปถึง 7 ทริป มีทั้งแบรนด์สินค้าจ้างให้พาไปเที่ยว กับแฟนๆ ให้จัดไป แม้แต่นัดสุดท้ายแอนฟิลด์ปีนี้ก็จัดไปนะครับ
สถานการณ์ตอนนี้เป็นแบบนี้
1. ล่าสุดเมื่อมีการอ่านเมลคุยกับสโมสรลิเวอร์พูล เขาแจ้งกลับมาว่า ตั๋วได้หมดลงแล้วสำหรับนัดสุดท้ายในบ้าน นั่นหมายความว่า ใครจะไป ก็ต้องทุ่มเงินซื้อต่อจากคนอื่นๆ ในราคาที่มากกว่ามากๆ
2. ตั๋วนัดสุดท้ายในแอนฟิลด์ที่เปิดขายและเป็นข่าว มีราคาอยู่ระหว่าง 50,000 ถึง 250,000 บาท ราคาถูกก็นั่งที่แย่ แต่ราคาแพงก็ไม่ได้หมายความว่าจะนั่งที่ดี ที่ต้องทำใจคือ ระหว่างที่คุณอ่าน Rabbit Today อยู่นาทีนี้
ตั๋วอาจพุ่งไปถึง 200,000 บาททุกใบ (อย่าทำเป็นเล่น)
3. วิธีการเพลย์เซฟที่สุดคือ ถ้ารักจริงหวังแต่ง ก็ต้องเสี่ยงตามนี้
ให้ดูว่านัดวันที่ 24 ก.พ. ที่ลิเวอร์พูลไปเยือนแมนฯ ยูฯ นั้น ถ้าชนะหรือเสมอ ก็ทุ่มซื้อเลย เพราะไม่มีแล้ว ตั๋วราคาถูกๆ เพราะถ้าคุณไปรอซื้อเดือนมีนาคม อาจเจอตั๋วราคาระดับอ้วกแตก และไม่มีด้วย แต่ถ้าสมมติว่าหงส์แดงแพ้ แต้มมาเหลือ 1-2 แต้ม ก็ให้อยู่เงียบๆ ไปสักพัก เพราะมันไม่ชัวร์แล้ว
4.ข้อนี้ ผมคิดคนเดียว ถ้าผมเป็นแฟนทีมไหนก็ตาม และสถานการณ์คือแย่งตั๋วที่มีแค่ 40,000 ใบในสนาม ตัดทิ้งไปได้เลยที่เกินจากนี้ เพราะสปอนเซอร์สินค้ามาขอไป ผมคิดว่าตัวเองจะนั่งตรงไหนในสนามก็ได้ทั้งนั้น ขอเพียงอยู่ในสนาม จะนั่งหลังโกล จะนั่งมุมธง ก็เอาหมด
ขอแค่อยู่ในสนาม ร่วมดื่มด่ำเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์
เพราะถ้าเอาแต่คิดว่า ‘ช้านน ต้องได้ที่ดีในราคาปานกลางหรือไม่แพง’ มันไม่มีหรอกครับ อันนั้นเพ้อเจ้อ แล้วคนที่คิดแบบนี้ก็อดดูเสมอ จากการจัดทริปของผม…อย่าลืมว่า แอนฟิลด์สนามคลาสสิก ไม่ได้ใหญ่กว้างแบบโอลด์แทรฟฟอร์ดที่มีเกือบ 80,000 ที่นั่ง หรือเกือบแสนที่แบบเวมบลีย์ หรือเทียบกับสนามสเปอร์ใหม่ก็ 62,000 ที่นั่ง
สนามแอนฟิลด์ไม่ได้กว้างมาก แม้เพิ่มขนาดขึ้น ตั๋วที่มีไม่มาก ยิ่งบีบให้ราคาแพง และจะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ วิธีอุ่นใจคือ ดูผลนัดแดงเดือด แล้วตัดใจซื้อเลย ในราคาที่ยังไม่พุ่งมากเหมือนซื้อเดือนเมษายน ไม่มีช้อยส์ไหนที่ดีไปกว่านี้ ถ้าจะไปดูในฐานะแฟนบอลธรรมดาทั่วไป
5. ถ้าเกิดว่า มีเรื่องราวเหลือเชื่อแบบเจอร์ราร์ดลื่นล้มแบบปี 2014 ให้คิดว่าตั๋วแพงๆ ที่ซื้อมาก่อนหน้า คุณก็ไปฉลองการโชว์ฟอร์มที่ดีสุดของขุนพลหงส์แดง นับตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีกมา 26 ปี
ถ้าคิดว่า ‘ทีมบอล’ คือ ‘คู่ชีวิต’
ตอนนี้ก็ทำเพื่อ ‘คู่หมั้น’
สักครั้งในชีวิต!
