'จอม' คุณแม่ที่หัดทำขนมขายครั้งแรกหลังตรวจพบมะเร็ง ตั้งต้นจากเมนูโปรดของลูก

สวัสดีค่ะชาว Dek-Dพบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก Special” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากผู้ที่มีแพสชันในการทำสิ่งที่รัก และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ในสังคมกันค่ะ
ในชีวิตคนเราบางครั้งก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ตกอยู่ในห้วงฝันร้ายที่มาทดสอบว่าเราจะรับมืออุปสรรคได้ดีแค่ไหน อย่างเช่นเรื่องราวของคุณแม่ "จอม" - สุภาวดี มีแย้ม (อายุ 32 ปี) ที่เพิ่งตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเมื่อราวๆ กลางปีที่แล้วค่ะ สิ่งที่เธอทำคือการลุกมาสู้เพื่อลูกทั้งสองที่ยังเล็ก (1 ขวบกับ 7 ขวบ) เดี๋ยวเรามารู้จักเธอและร้าน"จอมขมังเวทย์ เบเกอรี่" กันเลยค่ะ ราคาถูกแต่รีวิวดีงาม! ^^

น้องคนนี้ทำขนมขายเพื่อหาเงินค่าฉายแสงและทำคีโมรักษาตัว ขายแค่ชิ้นละ10บาทไม่รู้ได้กำไรตรงไหน แต่เค้าบอกว่าไปขายต่อได้ เมื่อวานเราสั่งไปให้บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด300ชิ้น น้องแถมขนมวันเกิดมาให้กล่องนึงด้วย เราไปรับขนมถึงหน้าบ้านเอง ถ้าไม่เป็นการรบกวนฝากรีทวีตช่วยน้องขายด้วยค่ะ/กราบ pic.twitter.com/9LxW1GSAM7

— ฉงน สนเท่ (@jusminediary1) August 7, 2019

ความรู้สึกเหมือนโลกจะถล่ม
เธอเริ่มเล่าให้ฟังว่า "เรารู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเมื่อ ก.ค ปีที่แล้วค่ะ ตอนนั้นกำลังเล่นๆ อยู่กับลูกชาย แล้วก็คลำหน้าอกเจอก้อนแข็งๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่ซีสต์ค่ะ แต่ก็ไม่ตรวจให้แน่ใจ ปรากฏว่าระหว่างรอนัดพบหมอเฉพาะทาง เราก็พบว่าก้อนนั้นใหญ่ขึ้น สุดท้ายหมอวินิจฉัยว่าเราเป็นมะเร็งระยะที่ 2 แล้ว"
"ตอนได้ยินคือช็อกมาก ร้องไห้ไป 3 วัน รู้สึกเหมือนโลกจะถล่มเลย ไม่คิดว่าวันนึงมันจะเกิดกับตัวเองแต่พอเข้าสู่กระบวนการรักษาของคุณหมอ สภาพจิตใจเราก็โอเคขึ้นเรื่อยๆ มีแค่บางช่วงที่กังวลเรื่องการผ่าตัดว่าเราจะได้กลับมาดูลูกอีกมั้ย? แต่หมอบอกว่ามันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น บวกกับหมอบอกว่าต้องรีบทำเลย เพราะเลยกำหนดมาหลายวันแล้ว"

Photo Credit: Sani Saviyorum
หลังจากนั้นการใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมรึเปล่า? "อืม…นอกจากที่ร้องไห้ในตลาดเพราะไม่รู้ว่ากินอะไรได้บ้าง ก็มีเรื่องที่เราเป็นคนขี้รำคาญค่ะ บางช่วงเราเลยไม่ใส่วิกหรือหมวก พอคนเห็นก็ถามว่าเราบวชชีเหรอ? 555 พอเราบอกว่าเป็นมะเร็ง เขาก็ตกใจนะ แล้วบอกว่าเราไม่เห็นเหมือนคนเป็นมะเร็งเลย ทุกวันนี้เเราเข้มแข็ง อยู่เพื่อลูกจริงๆ ค่ะ อาจมีบ้างที่เพิ่งรักษากลับมาแล้วรู้สึกแย่ แต่ก็จะไม่ให้ตัวเองอ่อนแอนานจนอาการทรุดลงไปอีก พยายามใช้ชีวิตให้ปกติที่สุด"
หัดทำเบเกอรี่ครั้งแรก
ตั้งต้นจากเมนูโปรดของลูก
อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่าเธอหารายได้จากการขายขนม เราเลยขอถามถึงที่มาที่ไปหน่อยว่า ทำไมถึงเลือกทำบราวนี่? หรือปกติคุณแม่เคยทำขนมมาก่อนรึเปล่า? "เราหัดทำครั้งแรกเลยค่ะ เมื่อก่อนมีแต่ทำงานบริษัทแล้วออกมาเป็นแม่บ้าน พอคิดกลับไปทำงานข้างนอกก็ดันตรวจเจอมะเร็งซะก่อน แล้วยิ่งต้องทำคีโมทุก 21 วัน ก็ทำให้ไม่กล้าเริ่มทำอะไรเลยค่ะ จนกระทั่งสามีป่วยจนทำงานไม่ได้เป็นเดือน เราก็เริ่มมองหาวิธีหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายของลูกๆ และค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ส่วนค่ารักษาเราใช้สิทธิ์ประกันสังคม"

Photo Credit: Sani Saviyorum
"พอคิดๆ อยู่เราก็นึกถึงลูกค่ะ เราเห็นเขาชอบช็อกโกแลตแล้วซื้อบราวนี่กลับบ้านมากินทุกเย็น เลยลองทำตามสูตรใน Youtube เพราะพอดีที่บ้านมีเตาอบ 9 ลิตรอยู่แล้ว (ซื้อผิดเพราะคิดว่าเป็นไมโครเวฟ 555) ปรากฏว่าครั้งแรกนี่ไหม้แบบกินไม่ได้เลย แต่ลูกก็บอกว่าอยากกิน เราก็พยายามต่อค่ะจนเนื้อสัมผัสโอเคขึ้น"
"พอโพสต์ผลงานลงเฟซส่วนตัว ก็มีเพื่อนซื้อเตา 60 ลิตรแบบออโต้มาให้ ซึ่งทำอะไรได้เยอะและใช้ถนัดกว่าเตาเล็กที่มีอยู่ ลูกชิมคราวนี้บอกว่า 'อร่อยแม่ หนูชอบ' เวลาลูกกินครั้งนึงก็จะแค่ 1-2 ชิ้น ที่เหลือเราก็เอาไปแบ่งเพื่อนบ้าน พอเขาชิมก็บอกอร่อยแล้วแนะนำให้เราลองขายดู ตอนแรกเราไม่มั่นใจเลยว่าจะมีคนซื้อ แต่ก็ลองโพสต์แล้วมีคนที่รู้จักมาช่วยอุดหนุน เพราะรู้ว่าเราป่วยเป็นมะเร็ง"

Photo Credit: จอมขมังเวทย์ เบเกอรี่
ว่าด้วยเรื่อง "ราคา"
ที่ชาวโซเชียลสงสัยว่าได้กำไรรึเปล่า?
"ชื่อ 'จอมขมังเวทย์ เบเกอรี่'อันนี้เราคิดช่วงทำคีโมค่ะ กินแล้วจะได้อยู่ยงคงกระพัน 555 ปกติขายออนไลน์อย่างเดียว และขายแค่บราวนี่เพราะส่งไปรษณีย์ได้ มีแบบขายแยกชิ้นละ 12 บาท ใส่ซองน่ารักๆ แต่ถ้าใส่กล่องจะมีแบบแพ็ก 4 ชิ้น 60 บาท กับแพ็ก 9 ชิ้น 120 บาท ถ้าสั่งพิเศษ มีตกแต่งด้วย ก็ 150 บาทค่ะ ^^"

Photo Credit: จอมขมังเวทย์ เบเกอรี่
"แต่นอกจากลงขายเอง ก็มีช่วงนึงที่ต้องฉายแสงทุกวัน ต้องใช้เงินวันละ 400-500 บาท เราก็ไปขอเพจนึงให้ช่วยลงขาย เขาก็ทั้งโพสต์ทั้งแชร์ให้ ทำให้เรามีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ ตื่นมาทำช่วงเช้า ส่งไปรษณีย์ นอกจากนี้ระหว่างทางจากบ้านไปสถาบันมะเร็ง เราขายทั้งพนักงานร้านสะดวกซื้อ วินมอเตอร์ไซค์ ทำขายส่งโรงเรียนลูก ฯลฯ บางวันขายได้ 100-200 บาท หักแล้วเหลือกำไร 20-30 แต่เราโอเคนะ ขอแค่มีค่ารถไปโรงพยาบาลก็พอ ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ"
และต้องบอกว่าพลังดีๆ จากโซเชียลก็ทำให้เธอมีกำลังใจจากการทำขนมขายด้วยนะคะ ^^ "มีวันนึง 'พี่มะลิ'(เจ้าของทวีตที่ต้นบทความ) มาจองไว้ 300 ชิ้นไปทำบุญ แล้วเขาก็ช่วยรีวิวให้ค่ะ จากนั้นก็มีคนมาสั่งซื้อเยอะมากกกก ขั้นต่ำ 100 ชิ้น/วัน ทุกวันนี้คือทำทั้งวัน เหนื่อยหรือหิวก็พัก แต่เราทำเท่าที่ไหวนะ บางทีอาจต้องบอกลูกค้าจะต้องรอส่งวันนั้นวันนี้ เพราะคนสั่งเยอะแล้วเราคนเดียวทำไม่ทัน เขาก็เข้าใจค่ะ รู้สึกขอบคุณพวกเขามากๆ ^^"

ทิ้งท้ายสั้นๆ
"เราไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนสนใจช่วยเหลือมากขนาดนี้ มันเหนือความคาดหมายมากๆ เลย ขอขอบอคุณทุกคนที่ช่วยอุดหนุนนะคะ และสุดท้ายนี้อยากบอกคนที่เป็นมะเร็งว่าให้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเป็นแค่ไข้หวัด เดี๋ยวก็หาย อย่าไปฟังคำพูดที่ทำให้จิตตก ยึดแค่ตัวเองและทำตามคำแนะนำหมอให้ครบถ้วนก็พอ ^^"

Photo Credit: จอมขมังเวทย์ เบเกอรี่
แม้จะได้ยินข่าวร้าย แต่เธอก็บอกว่าโชคดีที่ตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ และสามารถลุกขึ้นมาสู้เพื่อลูกๆ ได้อย่างเข้มแข็ง ทางเราต้องขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่และครอบครัวด้วยอีกทางนะคะ สุดท้ายนี้ก็อยากเชิญชวนคนรักบราวนี่ แวะไปอุดหนุนคุณแม่จอมกันที่เพจ "จอมขมังเวทย์ เบเกอรี่"เราแอบไปส่องรีวิวมาแล้ว พบว่ามีคนมายืนยันความอร่อยหลายคนเลยค่ะ ถ้าใครมีโอกาสได้ชิมแล้วอย่าลืมมารีวิวกันน้าา ^^
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกตอนที่แล้วนะคะ :)