เมื่อวันที่ 23 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ พบฝูงปลาฉลามหูดำ จำนวนกว่า 20 ตัว ว่ายน้ำเข้ามาหากินบริเวณหน้าอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จากอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนบันทึกภาพเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา โดย Mr.Anuar Abdullah ผู้นำองค์กร Ocean Quest Global ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดวิธีการฟื้นฟูปะการังด้วยวิธี Coral Propagation ให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง และอาสาสมัคร สำหรับการฟื้นฟูปะการังที่เสียหาย ถูกทำลายจากการท่องเที่ยวตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา หลังจากกรมอุทยานแห่งขาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี เมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เสียหายจากการท่องเที่ยว ห้ามนักท่องเที่ยวชมธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปลูกปะการังรวมกว่า 25,000 กิ่ง
ทั้งนี้ จากการสำรวจของนักวิชาการพบว่าการปิดอ่าวตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา ธรรมชาติใต้ทะเล ปะการังมีการฟื้นตัวดี และพืชพรรณบนฝั่ง ผักบุ้งทะเลฟื้นตัว อีกทั้งยังพบว่ามีสัตว์ทะเลหลายชนิดกลับมาหากินบริเวณอ่าวมาหยาจำนวนมากขึ้น เช่น ปูลม ฉลามหูดำ ถือเป็นตัวชี้วัดว่าระบบนิเวศทั้งบนบกและใต้ทะเลเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะปะการังที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง และอาสาสมัครกลุ่มต่างๆ ร่วมกันฟื้นฟู จำนวน 23,000 ชิ้น พบมีการแตกหน่อ มีการเจริญเติบโตดี
โดยตลอดหลายปี อ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่ รับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก บางวันในช่วงเทศกาลมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 7,000 คน ซึ่งเกินขีดความสามารถที่จะรองรับได้ ทำให้ระบบนิเวศทางธรรมชาติถูกทำลายเข้าขั้นวิกฤต แนวปะการังถูกเหยียบและทำลายจากการถูกสมอเรือทอดลงมาซ้ำๆ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงตัดสินใจปิดอ่าวเบื้องต้นเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนขยายออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อต้องการรักษาธรรมชาติในระยะยาว
นางศุภพร เปรมปรีดิ์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การฟื้นฟูปะการังบริเวณอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี ยังคงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มอาสาสมัครนักดำน้ำระดับผู้เชี่ยวชาญ Instructor, Divemaster จากเกาะพีพี เกาะเต่า และเกาะลันตา มาช่วยในการขนย้ายปะการังที่ปลูกแล้วไปยังแปลงอนุบาลปะการัง