ลูกสาวกัปตัน "สินสมุทร" รอรับศพพ่อกลับบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงพบชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตกระจายเกลื่อนทั่วทั้งบริเวณ ฮ.ตก ทั้งนี้ยังพบไมค์และกล้องช่อง 7 เร่งเก็บกู้และส่งพิสูจน์อัตลักษณ์…
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 ก.ค.2561 ที่ห้องเก็บศพ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ยังคงมีญาติของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของ บ.เฮลิลักค์ เอวิเอชั่น จำกัด ตกที่บริเวณกลางทุ่งนา บ.หูลิง ม.2 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เดินทางมายืนยันตัวบุคคล และตรวจดีเอ็นเอ ตามการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทั้งหมดถูกเพลิงไหม้จนจำสภาพไม่ได้ ทำให้การพิสูจน์อัตลักษณ์และยืนยันตัวบุคคลนั้นจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนในภาพรวม
ล่าสุด น.ส.สวรรยา สินเภตรา บุตรสาว และนางอรพิณ ดาวเรือง พี่สาวของ พ.ต.อ.สินสมุทร สินเภตรา ผู้ช่วยนักบิน ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ และพิสูจน์อัตลักษณ์ ในการนำกลับไปบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีทางศาสนา
น.ส.สวรรยา สินเภตรา กล่าวว่า ทราบข่าวว่าคุณพ่อเสียชีวิตเมื่อช่วงเที่ยงของเมื่อวาน จึงรีบเดินทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาพบคุณพ่อ ขณะที่คุณป้าเดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี เพื่อมารับศพคุณพ่อด้วยเช่นกัน ส่วนตัวยังรู้สึกช็อก เสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากครอบครัวทราบมาตลอดว่าคุณพ่อทำการบินเป็นประจำ และไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตอนนี้ครอบครัวยังตั้งรับอะไรไม่ทัน ทำใจไม่ได้ ล่าสุดได้คุยวิดีโอคอลล์กับคุณพ่อ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ทุกอย่างปกติ ไม่มีลางสังหรณ์ใดๆ จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะสามารถรับศพคุณพ่อกลับไปได้หรือไม่ เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อยืนยันบุคคลให้แล้วเสร็จก่อน
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร กระทรวงคมนาคม ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ และแพทย์เวร นพ.ชนบท ยังคงตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในด้านต่างๆ ในพื้นที่ รวมทั้งการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้าน ที่ต่างพากันมายืนดูการปฏิบัติหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยที่ อ.ชนบท, สำนักงาน ปภ., อบต.วังแสง และผู้นำชุมชนได้นำเต็นท์และเครื่องปั่นไฟมาติดตั้งเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการทำอาหารให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ที่ต้องปฏิบัติงานในการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎการบินสากล ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนของการเก็บกู้ซากไปเก็บรักษาไว้ที่ท่าอากาศยานขอนแก่นตามแนวทางการสอบสวนตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับประทาน โดยมีการจัดน้ำดื่ม น้ำชา กาแฟ มาคอยให้บริการ
ทั้งนี้ในการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่นั้น ยังคงพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ ที่เป็นของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน กระจายอยู่ทั้งบริเวณ และใต้ซากเฮลิคอปเตอร์อีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์เวร รพ.ชนบท จึงทำการเก็บรวมใส่ถุงผ้าและกล่องเก็บชิ้นส่วนมนุษย์ เพื่อส่งไปพิสูจน์อัตลักษณ์ตามขั้นตอน นอกจากนี้ยังคงพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล้อง และไมค์ของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 อยู่ใต้ซากของเฮลิคอปเตอร์อีกจำนวนหนึ่ง จึงทำการเก็บมาทำการตรวจสอบที่ สภ.ชนบท เช่นกัน.
