วันที่ 22 มี.ค. 62 - พรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่ เขตบางขุนเทียน โค้งสุดท้าย ใน "ภารกิจส่งประยุทธ์กลับบ้าน" นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรค นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรค และคณะผู้บริหาร
โดยเริ่มต้นด้วยการกราบสักการะพระประธาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเลา พระราม2 เขตบางขุนเทียน ปรากฎการณ์ว่าเกิดพระอาทิตย์ทรงกลดอย่างน่าอัศจรรย์ ก่อนจะขึ้นรถแห่พบปะพี่น้องประชาชน ที่เคหะไฟฟ้า ชุมชนวัดกำแพง เขตบางขุนเทียน กทม.เพื่อช่วยนายสุไพรพล ช่วยชู ผู้สมัคร ส.ส.เขต 25 บางขุนเทียนหาเสียง ทั้งนี้ ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้พรรคเพื่อชาติจัดปราศรัยใหญ่ ภายใต้ชื่อ "ภารกิจสุดท้าย ปลุกคนไทย หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ" ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว กทม.
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นป้าย "เลือกความสงบจบที่ลุงตู่" ว่า เป็นเหมือนการสร้างสถานการณ์ น่ากังวล สอดคล้องกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ออกมาพูดก่อนหน้านี้ว่าถ้าเลือกพรรคฝ่ายเพื่อก็จะต้องเจอกันที่ราชดำเนินอีกครั้ง ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.สืบทอดอำนาจ ต่างแบ่งงานกันทำ โดยเฉพาะชูเรื่องความสงบ แต่ถ้าไม่สงบก็เกิดจากนายสุเทพ ด้วยนายสุเทพที่ใช้วิธีข่มขู่คนไทย ถ้าเลือกพรรคฝ่ายเพื่อ ก็คงต้องนัดหมายไปเจอกันที่ราชดำเนินอีก ทำให้ผู้คนวิตก ตนคิดว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น การเลือกตั้ง ควรเป็นบรรยากาศของการใช้สิทธิเสรีภาพกันอย่างเต็มที่
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า รู้สึกแปลกใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แสดงอาการอะไรเลย กับกระแสที่ออกมาของพรรคพวกที่สนับสนุน ดังนั้นวันนี้ คิดว่าคนไม่สงบจริง คือพล.อ.ประยุทธ์ ต่างหาก โดยเฉพาะจิตใจของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยสงบเลย แม้ว่าจะพยายามเสนอว่าจะเปลี่ยนบุคลิกตัวเองไม่ให้เป็นคนที่ขี้โมโห เป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนตลก ไม่ทราบเป็นครั้งที่ร้อยแล้วหรือยัง แล้วท้ายที่สุดก็ไม่เคยรักษาคำพูดได้เลย เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเลือกความสงบ จบที่ลุงตู่ นั้นไม่ใช่ ลุงตู่คือความไม่สงบ ใจของลุงตู่เองนั่นแหละที่เป็นปัญหา
