เพจเฟซบุ๊ก Peace News ได้โพสต์ข้อความระบุข้อความว่า…
ย้ำ ปชป.คุยประยุทธ์กล่อม สว.ร่วมแก้ รธน.
เชื่อ“ธนาธร”รู้ชะตากรรมศาล รธน.วินิจฉัย
.
“จตุพร”พุ่งชน“ประยุทธ์” บี้ไปให้พ้นนายกฯ ชี้ผ่านการพิสูจน์มา 5 ปีแก้ปัญหา ศก.ไม่ได้ ย้ำลงจากอำนาจ หลีกทางให้คนอื่นขึ้นแทนที่ดีกว่า ย้ำ ปชป.รับหน้าเสื่อคุย “ประยุทธ์” กล่อม ส.ว.ร่วมมือแก้ รธน.ตั้ง สสร. ประชาชนมาแก้ รธน. เชื่อตั้ง กมธ.แค่ศึกษาฯ ไม่มีวันได้แก้ รธน.แน่
.
เมื่อ 17 พ.ย. 2562 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านรายการลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์ ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 5 โดยยก 4 สถานการณ์กรณีศึกษามาวิเคราะห์การเมืองว่า “อยู่หรือไป”
.
นายจตุพร เริ่มวิเคราะห์กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เมื่อทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยกันให้เริ่มต้นแก้ รัฐธรรมนูญใน ม. 256 ซึ่งเป็นวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ออกแบบไม่ให้แก้ไขได้เลย หากไม่ได้รับความเห็นร่วมตกลงกันก่อน
.
ส่วนการเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่ญัตติเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญนั้น ดังนั้น เมื่อต้องแก้ไข ม.256 เพื่อให้เลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากประชาชน มายกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว พรรคการเมืองควรมองข้ามการตั้ง กมธ.ศึกษาฯ
.
“พรรคประชาธิปัตย์ช่วงหาเสียงเลือกตั้งได้เสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วน 7 พรรคค้านชัดเจนจะแก้ไข ม.256 ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องไปศึกษากันอีก โดยมอบภาระให้ประชาธิปัตย์ไปเจรจากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนตั้ง ส.ว. ให้ร่วมมือแก้รัฐธรรมนูญ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอา พรรคประชาธิปัตย์ต้องออกจากร่วมรัฐบาล”
.
นายจตุพร กล่าววา การตั้ง กมธ.เป็นการซื้อเวลา และไม่เกิดความเป็นจริงได้ มีคำถามว่า ต้องการความสำเร็จในการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ หากต้องการประชาธิปัตย์ต้องไปคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ดีกว่า และตกลงกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญยกให้ประชาชน โดยมี สสร.เป็นตัวแทนยกร่าง
.
“ผมไม่เห็นด้วยกับการตั้ง กมธ. เพราะมันล้มเหลวตั้งแต่แรก จึงไม่มีความสำเร็จขึ้นได้ อย่าเสียเวลาศึกษาเลย เพราะไม่มีวันได้เแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเริ่มด้วยประชาชนการแก้ไขจะเกิดเป็นจริงขึ้น”นายจตุพร ย้ำ
.
สำหรับ กรณีเสนอปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ เพราะจะทำให้เสียระบบโควตาของแต่ละพรรคการเมือง และในอดีตไม่เคยมี
.
นายจตุพร กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้และการดำเนินโครงการที่ผ่านมาเป็นเพียงการซื้อหวยและไม่สามารถแก้ไขให้เศรษฐกิจดีได้ อีกทั้งยังเจอธรรมชาติลงทัณฑ์ ทั้งภาวะภัยแล้ง น้ำท่วม จนถึงขั้นต้องไปซื้อข้าวจากต่างประเทศ
.
ดังนั้น การดำรงอยู่ของรัฐบาลนอกจากจะเสียงปริ่มน้ำแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาความทุกข์ให้กับประชาชน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถแก้ไขได้ รวมถึงไม่สามารถดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาได้อย่างสำเร็จ คนรวยก็รวยขึ้นคนจนก็ยิ่งจนหนัก
.
ดังนั้น ตนอยากสื่อสารไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ว่า เป็นนายกรัฐมนตรีมาก็นาน แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ควรจะลุกออกไปจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และยกให้กับคนที่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะมาตรการต่างๆได้พิสูจน์อย่างชัดเจนว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้
.
“อดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน เมื่อแก้ไขเศรษฐกิจไม่ได้ เขาไม่รอให้ประชาชนมาไล่ และหากผมเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่อยู่ เพราะเมื่อแก้ไขเศรษฐกิจไม่ได้ ก็ต้องยอมรับความจริงกัน”
.
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเคยวิเคราะห์ว่า คดีของนายธนาธรจะไม่รอด ทั้งนี้ สิ่งที่นายธนาธรเจอนั้นพวกตนเคยเจอกันมาหมดแล้ว
.
“ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีคุณสมบัติ การเป็น ส.ส. ของนายธนาธรนั้น อาจจะไม่รอดและตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับผม”
