โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

งบปี63สะดุด อย่าปล่อยให้คน”มักง่าย”ลอยนวล

Businesstoday

เผยแพร่ 20 ก.พ. 2563 เวลา 07.25 น. • Businesstoday
งบปี63สะดุด อย่าปล่อยให้คน”มักง่าย”ลอยนวล

*โชคดีที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5-4 เสียง ให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ไม่ตกเป็นโมฆะโดยให้กลับไปลงมติ วาระ 2–3 ใหม่ให้ถูกต้องจะได้ไม่ต้องเสียเวลานับเริ่มนับหนึ่ง ลำพังแค่นี้ประเทศก็บอบช้ำพอแล้ว *

ในการลงมติจากสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภาเป็นรายมาตราโดยไม่ต้องมีการอภิปรายก็ผ่านฉลุยจากนี้เป็นกระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป ต้นเหตุที่ทำให้งบฯปี63ล่าช้าก็เนื่องมาจาก ส.ส.ไม่กี่คนขาดจิตสำนึก ขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่” เสียบบัตรแทนกัน”

อันที่จริงพรบ.งบฯปี 63ก็ล่าช้ากว่ากำหนดหลายเดือนเป็นการขัดข้องทางเทคนิคเพราะรัฐบาลคสช.อยากจะให้เป็นหน้าที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เสียบบัตรแทนกันยิ่งทำให้ล่าช้าออกไป งานนี้ต้องตำหนิทั้งคนเสียบและคนฝากเสียบถือว่ากระทำผิดร่วมกัน

ดังเอกสารแถลงข่าวบางช่วงบางตอนของ ศาลรัฐธรรมนูญ เขียนว่า

“ข้อเท็จจริงในคดีนี้ปรากฏว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 10-11 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นการพิจารณาวาระที่สองและวาระที่สาม ปรากฏการแสดงตนและลงมติของนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่นายฉลองรับเองว่า ตนไม่ได้อยู่ในที่ประชุมตามวันและเวลาดังกล่าว ย่อมมีผลเป็นการออกเสียงลงคะแนนที่ไม่สุจริต ทำให้ผลการลงมติ ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในวันและเวลาดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรมและไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ”

ส่วนกรณีของ นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ค่ายภูมิใจไทย ล่าสุด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แจ้งข้อมูลกลับมายังสภาฯ ยืนยันช่วงเวลาที่นางนาทีผ่านด่าน ตม. ไปแล้ว แต่มีชื่อโหวตคะแนนได้แต่ไม่ปรากฏว่ามีการฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญที่สำคัญอยู่พรรคภูมิใจไทยทั้งคู่

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยทั้งประเทศเพราะงบประมาณมีความจำเป็นในการบริหารประเทศและเป็นงบลงทุนภาครัฐซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวสุดท้ายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่เครื่องยนต์ตัวอื่นๆดับสนิท หากล่าช้าก็จะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐต้องสะดุดหยุดลงจากน้ำมือของนักการเมืองไม่กี่คน
หลังจากเกิดเรื่องได้มีการส่งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่รัฐสภาตรวจสอบแต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าซึ่งก็เข้าใจได้ก็เหมือนให้ลูกน้องไปตรวจสอบเจ้านายไม่รู้ว่าจะโดนกลั่นแกล้งภายหลังหรือไม่ ขนาด ป.ป.ช. ที่เคยกระตือรือร้นจับผิดรัฐบาลชุดก่อนๆออกอาการยังยึกยัก ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้มาแล้วว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต ละเมิดหลักการพื้นฐานของการเป็น ส.ส. ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ยิ่งน่าแปลกใจพรรคภูมิใจไทยในฐานะต้นสังกัดกลับเงียบหายไปเฉยๆแค่ตักเตือน คงไม่พอต้องลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงทำให้คนทั้งประเทศเดือดร้อนหรือเป็นห่วงว่า เสียงส.ส.1เสียงจะหายไป นายทุนพรรคไม่พอใจจะทิ้งพรรค

อย่าลืมว่าพรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคการเมือง เป็นองค์กรที่ประชาชนฝากความหวัง จะต้องทำให้เป็นตัวอย่างและเป็นบรรทัดฐานว่า สส.ที่ประชาชนเลือกมา จะต้องรู้จักหน้าที่ที่ต้องประชุมสภาและให้ความสำคัญกับกฎหมายที่รัฐบาลเสนอมากกว่าคะแนนเสียงจากการแจกของวันเด็ก

เหนือสิ่งใด”บิ๊กตู่” ในฐานะผู้นำรัฐบาลจะต้องมีบทลงโทษพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสส.พรรคไหนก็ตาม ถ้าไม่ลงโทษอะไรกันเลย เท่ากับว่าเห็นแก่คนใกล้ตัวที่ทำผิดมากกว่าความรู้สึกของประชาชน

ขอเรียกร้องบรรดาส.ส.ทั้งในภูมิใจไทย ส.ส.รัฐบาล และฝ่ายค้านใช้มาตรการทางสังคมแซงชั่นและกดดันให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจังอย่าปล่อยให้ลอยนวล โดยไม่รู้สึกรู้สา

ส.ส.ซึ่งมีหน้าที่ออกกฎหมายมาย เพื่อสร้างความยุติธรรมในสังคม กลับทำผิดอย่างร้ายแรงเสียเอง แถมยังไม่มีใครกล้าสอบสวนคนทำผิด อย่างนี้บ้านเมืองจะอยู่กันอย่างไร

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0