โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

งดแป้ง ชะลอวัย จริงหรือไม่ที่วัยผู้ใหญ่ควรเลิกกินแป้งได้แล้ว?

HealthyLiving

เผยแพร่ 13 มิ.ย. 2562 เวลา 07.27 น. • Healthy Living
HL_งดแป้ง600x600.jpg

“ขอให้อายุยืนถึงหมื่นปี สุขภาพดี ชีวิตยืนยาว”
การมีสุขภาพดี อายุยืน คงเป็นคำอวยพรที่หลาย ๆ คนได้รับมาจากบุคคลที่รัก และใฝ่ฝันถึงในช่วงที่ตนเองเริ่มเข้าสู่วัยที่เริ่มชราลง เพราะการเป็นคุณยายยังสาว คุณตายังหนุ่ม คงมีความสุขดีไม่ใช่น้อย ถ้าเทียบกับการเป็นผู้ป่วยสารพัดโรค เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นซึ่งคุณหมอ โคอิชิโร่ ฟุจิตะ แพทย์ชาวญี่ปุ่น ผู้เขียน “ หยุดแก่แค่เลิกกินแป้ง” ที่ตีพิมพ์ไปทั่วโลก ได้กล่าวว่า กุญแจสำคัญในการดูแลร่างกายและจิตใจให้เยาว์วัยอยู่เสมอนั้น ไม่ใช่ยารักษาโรค วิตามินบำรุงร่างกาย หรือนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อชะลอความแก่ต่าง ๆ แต่คือ การกินอาหารให้เหมาะสมกับระบบการทำงานของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปต่างหาก

อายุ 50 ร่างกายสับสวิตช์ระบบเผาผลาญ

อันที่จริงโดยปกติของมนุษย์ สามารถมีชีวิตยืนยาวด้วยร่างกายที่แข็งแรงถึง 100 ปี แล้วถ้าดูแลตัวเองดี ๆ สามารถอยู่ได้ถึง 125 ปี ซึ่งเคล็ดลับคือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกินเมื่อตนเองเริ่มเข้าสู่วัย 50 เพราะเป็นอายุที่ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงเป็นสิ่งที่สงสัยกันว่าทำไมโรคต่าง ๆ มักมาในช่วยวัยนี้  ขณะที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน ร่างกายจะนำออกซิเจนและอาหารมาใช้เป็นพลังงาน โดยใช้ระบบเผาผลาญ 2 ระบบเป็นหลัก

ส่วนแรกคือ “ระบบย่อยน้ำตาล” ทำหน้าที่เผาผลาญน้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงานที่อวัยวะนำไปใช้ได้ทันที และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า เมื่อคนในวัยหนุ่มสาว อยากจะลดน้ำหนัก ด้วยการ อดหรือ ตัด แป้งเมื่อไร มักจะมีอาการหน้ามืด วิงเวียน เพราะน้ำตาลตกนั่นเอง

นอกจากระบบย่อยน้ำตาลแล้ว ยังมีอีกระบบหนึ่งที่หลายคนไม่รู้ นั่นคือ “ระบบไมโตคอนเดรีย” ซึ่งทำหน้าที่เผาผลาญออกซิเจนให้เป็นพลังงาน “ที่ไม่ได้นำไปใช้ทันที” ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นพลังงานสำหรับอวัยวะที่ต้องทำงานตลอดเวลา เช่น หัวใจ เซลล์สมอง อีกทั้งไมโตคอนเดรียยังเปรียบเสมือนโรงงานแปรรูปอาหารในร่างกายของเรา มีหน้าที่ผลิตเอมไซน์พัน ๆ ชนิด ที่จะไปย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป เพื่อให้ได้พลังงานมาใช้ในแต่ละวัน

ตลอดชีวิตของมนุษย์ ระบบเผาผลาญทั้งสองอันนี้จะทำงานไปด้วยกัน โดยมีระบบน้ำตาลเป็นตัวหลัก ระบบไมโตคอนเดรียเป็นตัวเสริม แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 50 แล้ว สองระบบนี้จะเริ่มสลับหน้าที่กัน ดังนั้นร่างกายจึงไม่จำเป็นต้องใช้คาร์โบไฮเดรตมากเท่าเดิมอีกต่อไป

เป็นเรื่องจริงที่ว่า เมื่อเข้าวัยผู้ใหญ่ คาร์โบไฮเดรตก็หมดความจำเป็น

เมื่อร่างกายสลับหน้าที่ของระบบเผาผลาญกัน จากวัยรุ่นที่ต้องใช้พลังงานเป็นหลักจึงต้องกินคาร์โบไฮเดรตหรืออาหารจำพวกแป้งให้ได้พลังงาน พอมาถึงวัยผู้ใหญ่ ร่างกายจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานจากออกซิเจนมากกว่า จึงไม่จำเป็นต้องกินแป้งในอาหารทุกมื้อแล้ว

ถ้ายังกินแป้งมากเท่าเดิม ระบบย่อยน้ำตาลก็จะเริ่มกลับมาทำงาน ทำให้ไมโตคอนเดรียนำออกซิเจนทั้งหมดมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไม่ได้ ออกซิเจนที่เหลือจะเปลี่ยนไปเป็น “อนุมูลอิสระพันธ์ออกซิเจนที่ไวต่อการทำปฏิกิริยา” หรือ Reactive Oxygen Species (ROS) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าอนุมูลอิสระ ที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ นั่นเอง

ซึ่งเจ้าอนุมูลอิสระนี้เอง คือสิ่งที่ส่งผลต่อการเจ็บป่วยของคนเราค่อนข้างมาก เพราะมันจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับกรดไขมัน จนทำให้เซลล์โดนทำลายหรือผิดรูปผิดร่าง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเสื่อมสภาพ แก่ตัวไว แถมยังอาจมีโรคต่าง ๆ ตามมาอีกด้วย นั่นจึงเป็นคำตอบ ว่าทำไมการเริ่มงดแป้งเมื่ออายุเริ่มเข้าวัยผู้ใหญ่ จึงมีส่วนช่วยให้ร่างกายสุขภาพดีแข็งแรงยืนยาว เพราะการลดอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง จะช่วยชะลอการทำงานของระบบย่อยน้ำตาล จึงทำให้ไมโตคอนเดรียทำงานได้เต็มที่ และอนุมูลอิสระก็น้อยลงเช่นกัน

ถ้าหักดิบมันฝืนไป ลองทดแทนด้วยคาร์โบไฮเดรตกากใยสูง

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คนที่กำลังอยู่ในวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยที่ผ่านช่วงอายุ 50 ปี จึงควรกินอาหารจำพวกแป้งให้น้อยลงหรือทางที่ดีคืองดแป้งไปเลย เพื่อรักษาร่างกายให้แข็งแรงไปได้นาน ๆ อีกทั้งยังช่วยป้องกันให้ห่างจากโรคร้ายต่าง ๆ ไปได้อีกด้วย

แต่ด้วยวัฒนธรรมการกินของคนไทย ที่อาหารต่าง ๆ มักมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเมนูข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง และอื่น ๆ อีกสารพัด ทำให้การเลิกกินแป้งอาจเป็นเรื่องที่ดูจะเป็นไปได้ยากสำหรับคนที่กินแป้งมาทั้งชีวิต แต่เรามีคำแนะนำคือการเปลี่ยนมาลองกินพืชหัว เช่น มันเทศ เผือก แห้ว ฟักทอง หรือถั่วต่าง ๆ รวมไปถึงข้าวกล้อง ก็เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งมีกากใยอาหารสูง ย่อยง่าย และยังอิ่มไม่แพ้ข้าวอีกด้วย

ใครที่รู้ตัวว่าอายุ 50 ขึ้นไป เย็นนี้ ลองเริ่มมื้อแรกด้วยการกินแป้งให้เหมาะสมกับวัย และเมื่อทำติดต่อกันไปเรื่อย ๆ ทุกวัน คำอวยพรที่ขอให้อายุยืนถึงหมื่นปี สุขภาพดี ชีวิตยืนยาว ก็จะเป็นจริงได้ไม่ยาก แล้วชีวิตหลังเกษียณก็จะมีเรื่องดี ๆ อยู่กับลูกหลานไปได้อีกนานแสนนาน  

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0