โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

งดอ่านฎีกาคดีนปช.บุกบ้านสี่เสา ส่งคืนศาลฎีกาพิจารณาใหม่

สยามรัฐ

อัพเดต 23 ก.ย 2562 เวลา 05.43 น. • เผยแพร่ 23 ก.ย 2562 เวลา 05.41 น. • สยามรัฐออนไลน์
งดอ่านฎีกาคดีนปช.บุกบ้านสี่เสา ส่งคืนศาลฎีกาพิจารณาใหม่

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 ก.ย.ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 คดีดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ฟ้องนายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ฯ

ทั้งนี้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องพิจารณา ว่า จากที่ประสานงานทราบว่าจำเลยมาฟังคำพิพากษากันครบทุกคน คดีนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จำเลยและทีมทนายความทำอย่างดีที่สุด ส่วนคำพิพากษาออกมาอย่างไรพร้อมน้อมรับ ไม่กังวลใจเพราะสิ่งที่เคลื่อนไหวทางการเมืองที่ผ่านมา เพื่อให้ประเทศไทยปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ประมุข ไม่ได้ประสงค์ให้เกิดความรุนแรงหรือเสียหายกับบุคคล สถานที่ หรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้น มีความบริสุทธิ์ใจและเข้าสู่การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมตามที่ถูกกล่าวหา

เมื่อถามว่ากังวลใจหรือไม่หากติดต้องถูกจำคุกอาจจะกระทบอนาคตทางการเมือง นายณัฐวุฒิ บอกว่า กังวลกับอนาคตของประเทศมากกว่า ที่เราอยู่กันโดยไร้ซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง อยู่ในสภาพที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องกังวลร่วมกัน อนาคตการเมืองของตัวเองเป็นเรื่องเล็ก ไม่ว่าเราจะอยู่บนเวทีการเมืองหรือไม่ ก็จะมีผู้ร่วมอุดมการณ์คนใหม่ๆ ปรากฏตัวมาทำหน้าที่แสดงศักยภาพให้ทุกคนได้เห็นว่า ประชาชนที่รักประชาธิปไตยไม่ได้ผูกขาดคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลานัด ศาลอาญาแจ้งว่า ก่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้ นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง และนายวิภูเเถลง จำเลยที่ 4-7 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่เคยปฏิเสธ ความผิดขอต่อสู้คดี โดยได้ยื่นคำให้การใหม่ เป็นให้การเป็นรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี

ศาลอาญาพิจารณาแล้ว ให้งดอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีไว้ก่อนและเห็นควรส่งคำร้องของจำเลยที่ 4-7 และคำพิพากษาศาลฎีกา คืนให้ศาลฎีกาพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมูลเหตุคดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธง ตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส

คดีศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.58 ให้จำคุกนายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และนพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าพนักงานฯ และให้ยกฟ้อง นายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 ริบของกลางทั้งหมด

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.60 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า พวกจำเลยมีความผิดฐานเป็น ผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม เพียงกรรมเดียว จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0