วันนี้ (16 ม.ค.2562) นสพ.เกษตร สุเตชะ นายสัตวแพทย์ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เปิดเผยว่า ปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน กระจายฟุ้งปกคุลมพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ไม่ได้ส่งกระทบเพียงแต่มนุษย์ แต่ยังส่งผลกระทบถึงสัตว์เลี้ยงทุกตัวเช่นกัน
จากการสืบค้นจากเอกสารทางวิชาการ พบว่าในเกาะไต้หวัน ประเทศจีน พบแมวที่อาศัยอยู่ในแฟลตติดถนน และมีค่า PM 2.5 ภายในบ้านสูงกว่าค่ามาตรฐาน แมวเหล่านี้จะตรวจพบปัญหาภูมิแพ้ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ และหืดหอบ มากกว่าแมวที่เลี้ยงในแฟลตตามต่างจังหวัด
ซึ่งสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ก็เสี่ยงที่จะมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะ นก ไก่ เป็ด ห่าน หงส์ สุนัข-แมวพันธุ์หน้าสั้น ที่จะอ่อนไหวกับฝุ่นขนาดเล็ก
สัตว์มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าคน ปอดเล็ก แต่รับปริมาณมลพิษเท่ากับคน
ซึ่งอาการที่พบทั่วไปของสัตว์เลี้ยง หลังได้รับมลพิษทางอากาศเป็นเวลานาน ได้แก่ ไอ หายใจลำบาก น้ำตาไหล เจ็บคอ น้ำมูกไหล หอบหืดกำเริบ หายใจแรงเร็ว อ่อนแรงขาดออกซิเจน มึนงง กินลดลง หิวน้ำบ่อย อ้าปากหายใจ
หลังปีใหม่ ผมสังเกตในทุกๆ เช้า เสียงร้องของนกธรรมชาติแถวบ้าน (เขตลาดปลาเค้า) มีเสียงลดลง จำนวนตัวนกก็ลดลง นกเป็นตัวดัชนีชี้วัดสิ่งแวดล้อมที่เร็วกว่าสัตว์เลี้ยง เพราะมันอยู่ข้างนอกตลอดเวลา
นสพ.เกษตร กล่าวว่า ที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบกระต่ายที่เป็นสัตว์ทดลองในห้องปฏิบัติการ เริ่มมีน้ำมูก น้ำตา มีน้ำลาย กินย้ำเยอะ เบื่ออาหาร เป็นอาการที่พบหลังปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งชัดเจนว่าเป็นผลกระทบจากฝุ่นในพื้นที่ เพราะที่ห้องปฏิบัติการจะเปิดหน้าต่างให้กระต่ายในตอนกลางคืน
สำหรับวิธีป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบจากฝุ่นขนาดเล็ก เจ้าของต้องลดฝุ่นภายในและภายนอกบ้านสม่ำเสมอ ฉีดล้างและดูดฝุ่น งดพาเดินเล่นหรือออกกำลังกายนอกบ้าน และหมั่นอาบน้ำ
เมื่อถามถึงหน้ากากอนามัยสำหรับสัตว์ นสพ.เกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันมีหน้ากากอนามัยสำหรับสุนัขเท่านั้น ลักษณะเหมือนตะกร้อครอบปาก มีขายเฉพาะที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาประมาณ 500 บาท แต่หากต้องการใส่หน้ากากอนามัยของคนให้กับสัตว์เลี้ยง ก็สามารถใส่ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่พวกมันจะยอมให้ใส่หรือไม่
แมวขี้รำคาญมันไม่ยอมให้ใส่แน่ๆ หมาบางตัวอาจจะยอมเพื่อเอาใจเจ้านาย แต่ให้ใส่ทั้งวันมันไม่ยอมหรอก มันหายใจไม่ออก ใส่ถ่ายรูปได้แค่นั้น
วิธีป้องกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่อยู่ “ภายในบ้าน” จากมลพิษทางอากาศ
1.ล้างไส้กรองและเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ
2.ใช้วิธีดูดฝุ่นแทนการกวาดบ้าน
3.งดสูบบุหรี่หรือจุดธูปภายในบ้าน
4.ใช้น้ำยาถูพื้นที่มีประสิทธิภาพจับฝุ่นและขจัดคราบ
5.อาบน้ำสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ
6.งดออกกำลังกายนอกบ้านชั่วคราว แต่ปล่อยไปขับถ่ายตามปกติ
วิธีป้องกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่อยู่ “ภายนอกบ้าน” จากมลพิษทางอากาศ
1.ถ้าเป็นไปได้ให้เอาเข้ามาเลี้ยงในบ้าน
2.งดพาไปวิ่งออกกำลังกายข้างถนนหรือแหล่งจราจรติดขัด
3.อาบน้ำให้สัตว์บ่อยขึ้น แต่ไม่ต้องใช้แชมพูหรือสบู่ เพื่อให้ตัวสัตว์ชุ่มชื่นและไม่กักฝุ่น
4.รดน้ำต้นไม้ ล้างลานจอดรถ ทุกวัน เพื่อเพิ่มความชื้นในสิ่งแวดล้อม จะทำให้ฝุ่นที่ฟุ้งอยู่แถวนั้น จับตัวกันและตกลงที่พื้น
