โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ฆ่าฝังดินหมกป่า ศพสยองนั่งชันเข่าถูกแทงไส้ไหล พิรุธคนในหมู่บ้าน พบมีแค่ 6 หลัง (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2562 เวลา 19.39 น.
ฆ่าฝังดินหมกป่า ศพสยองนั่งชันเข่าถูกแทงไส้ไหล พิรุธคนในหมู่บ้าน พบมีแค่ 6 หลัง (คลิป)
วันที่ 18 มิ.ย. 62 ความคืบหน้าจากกรณีพบศพ นายจรัญ นาคแก้ว อายุ 42 ปี ถูกฆ่าฝังดินใกล้กับลำธาร ภายในป่าหมู่บ้านคลองชุม หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนื

วันที่ 18 มิ.ย. 62 ความคืบหน้าจากกรณีพบศพ นายจรัญ นาคแก้ว อายุ 42 ปี ถูกฆ่าฝังดินใกล้กับลำธาร ภายในป่าหมู่บ้านคลองชุม หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้พบศพเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งชาวบ้านได้นำรถกระบะพาทีมข่าวและตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามไปที่จุดเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเดินทางไปจุดพบศพ
เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเดินทางไปจุดพบศพ

โดยเป็นทางลูกรังและภูเขา ซึ่งระยะทางกว่า 7-8 กิโลเมตร โดยมีฝนตกหนักตลอดเวลา แต่เมื่อไปถึงครึ่งทางรถก็ประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ เนื่องจากถนนลื่น ทำให้ทีมข่าวและตำรวจต้องเดินเท้าต่อไปอีกกว่า 4 กิโลเมตร ไปจนถึงหลุมฝังศพข้างลำธาร และต้องเดินข้ามลำธารก่อนเดินต่อไปอีกกว่า 20 เมตร ซึ่งพบว่าหลุมดังกล่าวนั้นลึกประมาณ 1.5 เมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร โดยบริเวณก้นหลุมยังมีคราบเลือดแห้งสีดำ และมีกลิ่นเหม็น

สภาพหลุมจุดที่พบศพ
สภาพหลุมจุดที่พบศพ

นายวิชิต นาพร อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านของผู้ตาย เปิดเผยว่า บริเวณโดยรอบมีกระท่อมที่อยู่อาศัยแค่ 6 ครัวเรือนเท่านั้น ซึ่งรวมกระท่อมของผู้ตายด้วย ซึ่งผู้ตายไม่ใช่คนในพื้นที่ดั้งเดิมและเพิ่งมาอยู่อาศัยได้ประมาณ 3 ปี โดยเขามาของานจากเพื่อนของเขา และเข้ามาปลูกกระท่อมอยู่บนยอดเขา โดยเขาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งตนก็ไม่ค่อยได้สุงสิงมากนัก

นายวิชิต นาพร เพื่อนบ้านของผู้ตาย
นายวิชิต นาพร เพื่อนบ้านของผู้ตาย

นายวิชิตเปิดเผยว่า นิสัยใจคอของผู้ตายเป็นคนปกติดี ไม่ค่อยสุงสิงใคร แต่เมื่อเวลาเขาเมาเหล้าก็จะชอบพูดจาก้าวร้าว และชอบพูดสร้างปัญหาระรานผู้อื่น แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเขาไปมีเรื่องกับใคร อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่รู้ว่าเขาหายตัวไปตั้งแต่วันไหน แต่เพิ่งมาทราบข่าวตอนวันที่ 15 มิ.ย. ขณะเจ้าหน้าที่เริ่มค้นหาตัว ซึ่งตนก็ได้ช่วยตามหา โดยจุดพบศพนั้นไม่มีใครเข้าไปยุ่ง เพราะเป็นที่ดินข้างลำธารที่ชาวบ้านนำเครื่องสูบนำไปวางไว้เพื่อทำประปาภูเขา และใช้ในการเกษตร

นายวิชิตยืนยันว่า เพื่อนบ้านทั้ง 5 ครัวเรือนนั้นอาจจะเคยมีปากเสียงกับเขา แต่ไม่มีใครที่จะถือสาเอาเรื่อง และตนก็ไม่อยากสงสัยใคร เพราะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ยอมรับว่าไม่สบายใจที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะทำให้ดูเหมือนว่าสังคมในหมู่บ้านมีปัญหา ซึ่งตนก็รู้สึกกลัวที่ต้องอาศัยอยู่ในละแวกนี้ ส่วนผู้ตายไม่มีญาติในบริเวณนี้ ซึ่งโรงพักก็ได้ติดต่อญาติไปแล้ว แต่ญาติเขาก็ไม่สนใจ

นายวสันต์ ถาวรกันต์ รองหัวหน้ากู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฏร์
นายวสันต์ ถาวรกันต์ รองหัวหน้ากู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฏร์

ด้านนายวสันต์ ถาวรกันต์ อายุ 40 ปี รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฏร์ พื้นที่ อ.วิภาวดี ซึ่งเป็นคนที่ลาดตระเวนค้นหาผู้ตาย เปิดเผยว่า ทีมกู้ภัยได้รับแจ้งให้ขึ้นไปลาดตระเวนค้นหาเมื่อวานนี้ ซึ่งได้จัดทีมกู้ภัยขึ้นไป 16 คน เริ่มค้นหาตอน 10 โมง โดยแบ่งเป็น 2 ทีม ซึ่งทีมตนจำนวน 9 คนได้ลาดตระเวนเดินปูพรมลำธาร ซึ่งพบรองเท้าบูท 1 ข้างลอยอยู่ในลำธาร มีชาวบ้านในละแวกนั้นยืนยันว่าเป็นรองเท้าผู้ตาย ซึ่งตนก็ตั้งข้อสงสัย 2 ประเด็นคือจมน้ำตาย หรือไม่ก็เป็นการฆาตกรรม ทีมตนเดินลาดตระเวนไปตามคลองแต่ก็ไม่พบ แต่เป็นขณะเดียวกันที่กู้ภัยอีกทีมเจอหลุมศพ โดยสังเกตเห็นพื้นดินบริเวณหลุมนั้นเป็นดินที่มีรอยกลบ และมีกลิ่นโชยขึ้นมา ซึ่งกู้ภัยได้ประสานตำรวจลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานทันที หลังจากตำรวจมา ทีมของตนก็เป็นทีมที่ขุดผู้ตายขึ้นมา และเมื่อขุดไปลงไปก็พบถุงกระสอบและไฟส่องสว่างของผู้ตาย อยู่ในหลุม เมื่อขุดลึกลงไปก็พบศพในลักษณะนั่งชันเข่าก้มหน้าลง บริเวณท้องมีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคม และมีไส้ไหลทะลักออกมากองอยู่ แต่ไม่มีบาดแผลในส่วนอื่น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกบ่อย ทำให้ชะล้างและไม่มีร่องรอยคนร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้บริเวณรอบหลุมเลย ซึ่งตนเห็นศพก็รู้สึกน่าเวทนา เนื่องจากศพเน่าเปื่อยหมดแล้ว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมา 6-7 วัน และน่าจะถูกฆ่าตั้งแต่วันที่หายตัวไป สำหรับพื้นที่พบศพนั้นก็เป็นเส้นทางที่สามารถเดินเข้าไปสวนชาวบ้านได้ แต่ไม่รู้ว่ามีใครเดินผ่านหรือไม่ ส่วนผู้ตายจะมีปัญหากับใครนั้น ตนก็คาดเดาไม่ได้ เนื่องจากเขาเป็นคนต่างถิ่น และไม่รู้ว่าจะไปก่อเรื่องไว้กับใคร แต่ตนก็รู้สึกสงสารที่เขามาตายเช่นนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0