วันที่ 18 มิ.ย. 62 ความคืบหน้าจากกรณีพบศพ นายจรัญ นาคแก้ว อายุ 42 ปี ถูกฆ่าฝังดินใกล้กับลำธาร ภายในป่าหมู่บ้านคลองชุม หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้พบศพเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่หมู่ที่ 13 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งชาวบ้านได้นำรถกระบะพาทีมข่าวและตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามไปที่จุดเกิดเหตุ
โดยเป็นทางลูกรังและภูเขา ซึ่งระยะทางกว่า 7-8 กิโลเมตร โดยมีฝนตกหนักตลอดเวลา แต่เมื่อไปถึงครึ่งทางรถก็ประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ เนื่องจากถนนลื่น ทำให้ทีมข่าวและตำรวจต้องเดินเท้าต่อไปอีกกว่า 4 กิโลเมตร ไปจนถึงหลุมฝังศพข้างลำธาร และต้องเดินข้ามลำธารก่อนเดินต่อไปอีกกว่า 20 เมตร ซึ่งพบว่าหลุมดังกล่าวนั้นลึกประมาณ 1.5 เมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร โดยบริเวณก้นหลุมยังมีคราบเลือดแห้งสีดำ และมีกลิ่นเหม็น
นายวิชิต นาพร อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านของผู้ตาย เปิดเผยว่า บริเวณโดยรอบมีกระท่อมที่อยู่อาศัยแค่ 6 ครัวเรือนเท่านั้น ซึ่งรวมกระท่อมของผู้ตายด้วย ซึ่งผู้ตายไม่ใช่คนในพื้นที่ดั้งเดิมและเพิ่งมาอยู่อาศัยได้ประมาณ 3 ปี โดยเขามาของานจากเพื่อนของเขา และเข้ามาปลูกกระท่อมอยู่บนยอดเขา โดยเขาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งตนก็ไม่ค่อยได้สุงสิงมากนัก
นายวิชิตเปิดเผยว่า นิสัยใจคอของผู้ตายเป็นคนปกติดี ไม่ค่อยสุงสิงใคร แต่เมื่อเวลาเขาเมาเหล้าก็จะชอบพูดจาก้าวร้าว และชอบพูดสร้างปัญหาระรานผู้อื่น แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเขาไปมีเรื่องกับใคร อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่รู้ว่าเขาหายตัวไปตั้งแต่วันไหน แต่เพิ่งมาทราบข่าวตอนวันที่ 15 มิ.ย. ขณะเจ้าหน้าที่เริ่มค้นหาตัว ซึ่งตนก็ได้ช่วยตามหา โดยจุดพบศพนั้นไม่มีใครเข้าไปยุ่ง เพราะเป็นที่ดินข้างลำธารที่ชาวบ้านนำเครื่องสูบนำไปวางไว้เพื่อทำประปาภูเขา และใช้ในการเกษตร
นายวิชิตยืนยันว่า เพื่อนบ้านทั้ง 5 ครัวเรือนนั้นอาจจะเคยมีปากเสียงกับเขา แต่ไม่มีใครที่จะถือสาเอาเรื่อง และตนก็ไม่อยากสงสัยใคร เพราะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ยอมรับว่าไม่สบายใจที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะทำให้ดูเหมือนว่าสังคมในหมู่บ้านมีปัญหา ซึ่งตนก็รู้สึกกลัวที่ต้องอาศัยอยู่ในละแวกนี้ ส่วนผู้ตายไม่มีญาติในบริเวณนี้ ซึ่งโรงพักก็ได้ติดต่อญาติไปแล้ว แต่ญาติเขาก็ไม่สนใจ
ด้านนายวสันต์ ถาวรกันต์ อายุ 40 ปี รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฏร์ พื้นที่ อ.วิภาวดี ซึ่งเป็นคนที่ลาดตระเวนค้นหาผู้ตาย เปิดเผยว่า ทีมกู้ภัยได้รับแจ้งให้ขึ้นไปลาดตระเวนค้นหาเมื่อวานนี้ ซึ่งได้จัดทีมกู้ภัยขึ้นไป 16 คน เริ่มค้นหาตอน 10 โมง โดยแบ่งเป็น 2 ทีม ซึ่งทีมตนจำนวน 9 คนได้ลาดตระเวนเดินปูพรมลำธาร ซึ่งพบรองเท้าบูท 1 ข้างลอยอยู่ในลำธาร มีชาวบ้านในละแวกนั้นยืนยันว่าเป็นรองเท้าผู้ตาย ซึ่งตนก็ตั้งข้อสงสัย 2 ประเด็นคือจมน้ำตาย หรือไม่ก็เป็นการฆาตกรรม ทีมตนเดินลาดตระเวนไปตามคลองแต่ก็ไม่พบ แต่เป็นขณะเดียวกันที่กู้ภัยอีกทีมเจอหลุมศพ โดยสังเกตเห็นพื้นดินบริเวณหลุมนั้นเป็นดินที่มีรอยกลบ และมีกลิ่นโชยขึ้นมา ซึ่งกู้ภัยได้ประสานตำรวจลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานทันที หลังจากตำรวจมา ทีมของตนก็เป็นทีมที่ขุดผู้ตายขึ้นมา และเมื่อขุดไปลงไปก็พบถุงกระสอบและไฟส่องสว่างของผู้ตาย อยู่ในหลุม เมื่อขุดลึกลงไปก็พบศพในลักษณะนั่งชันเข่าก้มหน้าลง บริเวณท้องมีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคม และมีไส้ไหลทะลักออกมากองอยู่ แต่ไม่มีบาดแผลในส่วนอื่น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกบ่อย ทำให้ชะล้างและไม่มีร่องรอยคนร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้บริเวณรอบหลุมเลย ซึ่งตนเห็นศพก็รู้สึกน่าเวทนา เนื่องจากศพเน่าเปื่อยหมดแล้ว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมา 6-7 วัน และน่าจะถูกฆ่าตั้งแต่วันที่หายตัวไป สำหรับพื้นที่พบศพนั้นก็เป็นเส้นทางที่สามารถเดินเข้าไปสวนชาวบ้านได้ แต่ไม่รู้ว่ามีใครเดินผ่านหรือไม่ ส่วนผู้ตายจะมีปัญหากับใครนั้น ตนก็คาดเดาไม่ได้ เนื่องจากเขาเป็นคนต่างถิ่น และไม่รู้ว่าจะไปก่อเรื่องไว้กับใคร แต่ตนก็รู้สึกสงสารที่เขามาตายเช่นนี้