ที่มาของภาพ : painaidii
เรื่องราวของ บุญเพ็งหีบเหล็ก ฆาตกรที่เหี้ยมโหดที่สุดในสมัยรัชกาลที่ 6 ถูกนำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์อยู่หลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากความโหดร้ายของบุญเพ็ง และเรื่องราวของคาถาอาคมที่ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่า ทำไมเพชฌฆาตจึงไม่สามารถลงดาบปลิดชีวิตบุญเพ็งได้ในดาบเดียว ทำให้ผู้ที่ได้รับชมประวัติของบุญเพ็งรับรู้ได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของชายผู้นี้
ภาพนายบุญเพ็ง
ที่มาของภาพ : wikimedia
บุญเพ็งหีบเหล็ก หรือนายบุญเพ็ง อาศัยอยู่ที่เมืองท่าอุเทน (ปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครพนม) ก่อนจะย้ายมาอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครเมื่อตอนอายุได้ 5 ขวบ
ต่อมานายบุญเพ็งได้บวชเรียนอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ด้วยความที่ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมต่าง ๆ ทำให้เป็นที่ร่ำลือว่าพระสงฆ์องค์นี้มีวิชาที่แก่กล้า จึงมีบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเดินทางมาที่กุฏิอยู่ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะสีกาที่มีฐานะร่ำรวย ซึ่งบุญเพ็งก็ได้ใช้วิชาอาคมทำเมตตามหานิยมให้กับผู้หญิงที่หลงเชื่อ ด้วยการหลอกล่อเอาเงินและมีเพศสัมพันธ์กับสีกาที่มาทำเสน่ห์ ทำให้กุฏิที่เคยเป็นสถานที่จำวัดและศึกษาพระธรรมได้กลายเป็นสถานที่แห่งการปฏิบัติกิจแห่งความ ‘อาบัติ’ด้วยการหลับนอนกับสีกาจำนวนมาก
ที่มาของภาพ: painaidii
แต่เรื่องราวของบุญเพ็งไม่ได้มีเพียงแค่การหลับนอนกับสีกาในขณะที่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่เท่านั้น หากแต่สีกาที่เดินทางมาที่กุฏิมีข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับ จึงคาดว่าสีกาเหล่านั้นถูกฆ่าและนำศพยัดลงในหีบเหล็กและนำไปถ่วงน้ำเพื่ออำพรางศพ โดยแรงจูงใจก็มาจากความโลภในทรัพย์สมบัติของเหยื่อนั่นเอง แต่บางแหล่งที่มาก็อ้างว่าเหยื่อบางรายเสียชีวิตเพราะ ‘รสนิยมทางเพศ’ของบุญเพ็งที่ชอบใช้ความรุนแรง ทำให้เหยื่อเสียชีวิตในขณะที่ร่วมรักกับบุญเพ็งอยู่นั่นเอง
บุญเพ็งก่อคดีฆาตกรรมมาแล้วหลายครั้ง (อาจมีเหยื่อที่ถูกฆาตกรรมมากถึง 7 ราย) ด้วยวิธีการคล้าย ๆ กัน นั่นก็คือเมื่อทำการฆาตกรรมเหยื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะนำศพของเหยื่อยัดลงไปในหีบเหล็ก ในครั้งที่ 7 ที่บุญเพ็งทำการฆาตกรรมนางปริก ภรรยาเศรษฐีที่แอบมามีสัมพันธ์กับบุญเพ็งจนตั้งท้อง แต่เนื่องจากบุญเพ็งไม่ยอมรับและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการฆาตกรรมเหยื่อรายสุดท้ายของบุญเพ็ง และก็เหมือนทุก ๆ ครั้งที่บุญเพ็งจะต้องอำพรางศพโดยการยัดลงหีบเหล็กและนำไปถ่วงน้ำ แต่ดูเหมือนว่าในครั้งนี้โชคจะไม่ได้เข้าข้างบุญเพ็งอีกแล้ว เพราะหีบที่บรรจุศพของนางปริกไว้นั้น ลอยไปติดอยู่ที่ริมฝั่งบริเวณวัดไทรม้า จังหวัดนนทบุรี สภาพศพเหมือนคนนั่งยอง ๆ มีเชือกมัดมือมัดเท้า ห่อหุ้มด้วยมุ้ง ในหีบมีอิฐ 8 ก้อนบรรจุอยู่เพื่อถ่วงน้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน กระทั่งพบหลักฐานเชื่อมโยงว่า บุญเพ็งคือฆาตกรนั่นเอง
ที่มาของภาพ : workpointnews
แต่ก็มีการกล่าวอ้างว่า ตามพยานหลักฐานที่พบเชื่อว่าบุญเพ็งลงมือฆาตกรรมเหยื่อจริง ๆ เพียง 2 รายเท่านั้น คือพ่อค้าเพชรพลอยชื่อ นายล้อม ที่บุญเพ็งได้ล่อลวงเหยื่อมาที่กุฏิขณะบวชเป็นพระ แล้วร่วมมือกับลูกน้องฆ่าชิงทรัพย์ ก่อนหั่นศพใส่หีบเหล็ก และเหยื่อรายที่สองก็คือนางปริกนั่นเอง แต่ไม่ว่าบุญเพ็งจะกระทำการอันโหดเหี้ยมด้วยการสังหารเหยื่อไปกี่รายก็ตาม แต่ท้ายที่สุดโทษของฆาตกรรายนี้ก็คือการ ‘ประหารชีวิตด้วยการตัดคอ’
ที่มาของภาพ : painaidii
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2462 ณ ลานประหารบริเวณวัดภาษี (ปัจจุบันอยู่ในซอยเอกมัย 23 ) ติดกับคลองแสนแสบ ในวันนั้นมีชาวบ้านทั้งใกล้-ไกลที่ได้ยินข่าวเรื่องการประหารชีวิตนายบุญเพ็งแห่กันมารอดูการประหารฆาตกรสุดโหดกันอย่างแน่นขนัด เมื่อได้ฤกษ์ยามที่จะบั่นคอนักโทษ เพชฌฆาตผู้ทำหน้าที่ประหารก็ได้เข้าไปขอขมาลาโทษบุญเพ็งที่ถูกมัดไว้กับหลักประหาร แล้วเพชฌฆาตก็เริ่มรำดาบไปรอบ ๆ ตัวบุญเพ็งตามอย่างประเพณีโบราณ เมื่อเพชฌฆาตได้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องลงดาบเพื่อปลิดชีวิตบุญเพ็ง ดาบคมกริบของเพชฌฆาตถูกง้างขึ้นและฟันลงไปบริเวณต้นคอของบุญเพ็งอย่างแม่นยำ แต่ทว่าศีรษะที่ควรขาดสะบั้นจากคมดาบกลับแน่นิ่งไม่ไหวติง ทำให้ผู้คนที่มาเฝ้าดูต่างเกิดความสับสนงงงวย เมื่อเป็นเช่นนั้นเพชฌฆาตจึงแน่ใจแล้วว่าบุคคลผู้นี้มีอาคมเป็นแน่ จึงได้ตะโกนข่มขวัญว่า “อะไรอยู่ในปากมึง เอาออกมาให้หมด”
ที่มาของภาพ : painaidii
เช่นนั้นแล้วบุญเพ็งจึงพ่นวัตถุสีดำออกมาจากปาก เพชฌฆาตจึงเก็บและนำไปทิ้งในกอไผ่แล้วเริ่มทำการรำดาบอีกครั้ง ก่อนจะลงดาบและปลิดชีวิตฆาตกรสุดโหด บุญเพ็งหีบเหล็ก ได้ในทันที และถือได้ว่าเป็นนักโทษคนสุดท้ายที่ได้รับโทษประหารโดยการตัดคอ
ที่มาของภาพ : painaidii
และก็อย่างที่เราได้เห็นกันว่า ถึงแม้บุญเพ็งจะได้รับการลงโทษอย่างหนักหนาที่สุดแล้วโดยการประหารชีวิต แต่ความผิดความชั่วที่บุญเพ็งได้กระทำก็ยังถูกพูดถึงกันมาหลายต่อหลายรุ่น เป็นการบอกได้ว่าไม่มีสิ่งใดที่จะมาลบล้างความผิดที่คุณกระทำได้ถึงแม้จะชดใช้ด้วยชีวิตก็ตาม เพราะการกระทำเหล่านั้นจะยังคงติดตรึงและยังคงอยู่ตลอดกาล เพราะฉะนั้นก่อนจะกระทำการอันใดควรพึงระลึกถึงความเหมาะสม ถูกต้อง และไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยประการทั้งปวงนะคะ
ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ : ฆาตกรจอมขมังเวท ‘บุญเพ็งหีบเหล็ก’ นักโทษคนสุดท้ายที่ถูกประหารโดยการตัดคอ
