ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้(18.ก.พ.) ที่ระดับ31.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ31.22 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 31.15-31.25 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินฝั่งสหรัฐปิดทำการ เนื่องจากเป็นวันPresident Day ส่งผลให้สินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ เช่นหุ้นยุโรปอย่างEuro Stox 50 ปรับตัวบวก0.32% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้นทั้งคู่ราว0.2% และประเด็นหลักที่ตลาดยังคงติดตามคือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า(โควิด-19) ซึ่งกำลังส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตทั่วโลกในตอนนี้
ขณะที่ในฝั่งของตลาดทุน การเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ทั่วโลกที่ล่าสุดทยอยปรับตัวลงเรื่อยๆ ขณะที่ความน่าจะเป็นที่ธนาคารกลางใหญ่อย่าง เฟด อีซีบี และธนาคารกลางญี่ปุ่น จะลดดอกเบี้ยก็ขยับขึ้นมาที่ระดับ83% 51% และ52% ตามลำดับ
ส่วนฝั่งในประเทศก็ไม่ต่างกัน เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยไปในการประชุมครั้งล่าสุดขณะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องลดดอกเบี้ยอีกครั้ง บอนด์ยีลด์ไทยอายุต่ำกว่า3 ปีจึงร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ1.00% ที่เป็นดอกเบี้ยนโยบายทั้งหมด ชี้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่ อยู่ในภาวะระมัดระวังตัว และเลือกที่จะถือสินทรัพย์ปลอดภัยแม้ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นแล้วในช่วงนี้
“เงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบลงมาก แม้วันก่อนจะมีการประกาศจีดีพีที่แย่กว่าคาด แต่หลังจากอ่อนค่าขึ้นไปแตะระดับ31.22 บาทต่อดอลลาร์ก็มีแรงซื้อกลับทันที ในระยะต่อไปเชื่อว่า ภาพรวมความเสี่ยงของตลาด(Risk Sentiment) เป็นเรื่องหลักที่จะสามารถเปลี่ยนเทรนด์ค่าเงินบาทและสกุลเงินเอเชียได้” ดร.จิติพลกล่าว