โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ค่าเงินบาทกลับเข้าสู่สภาวะแข็งค่า หลัง S&P ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 12 ธ.ค. 2562 เวลา 11.12 น. • เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2562 เวลา 11.12 น.
เศรษฐกิจ ธนบัตร เงินบาท

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12/12) ที่ระดับ 30.20/21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (11/12) ที่ระดับ 30.31/32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังคณะกรรมการกำำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2563 ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมสำหรับการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด สำหรับปัจจัยภายในประเทศนั้น S&P Global Ratings ได้ปรับทบทวนแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยสู่ เชิงบวก จากเดิม มีเสถียรภาพ โดย S&P มองว่าการมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งตอบสนองความคิดเห็นของประชาชนมากกว่านั้น ถือป็นการสนับสนุนเสถียรภาพทางการเมือง ขณะเดียวกันก็ระบุว่า เศรษฐกิจที่เปิดกว้างของไทยกำลังเผชิญกับแรงต้าน (headwinds) เนื่องจากความต้องการที่อ่อนแอในต่างประเทศ และเงินบาทที่แข็งค่า อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบดังกล่าวได้รับการชดเชยด้วยตัวชี้วัดทางการคลังที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.17-30.23 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.18/19 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (12/12) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1030/31 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (11/12) ที่ระดับ 1.1083/84 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ยูโรแข็งค่าตามการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันนี้ (12/12) โดยคาดการณ์ว่า อีซีบีจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ ECB ระบุว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันต่อไป หรือปรับลดลง จนกว่าจะมีสัญญาณบ่งชี้การปรับตัวขึ้นของราคา ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1070-1.1145 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.129/30 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (12/12) เปิดตลาดที่ระดับ 108.50/52 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (11/12) ที่ระดับ 108.69/70 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าตามการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เส้นตายการปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งยังไม่ถูกเลื่อนออกไป ณ ขณะนี้ ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสกุลเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.46-108.77 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.65/66 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (12/12), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน พ.ย. (12/12), ยอดค้าปลีกเดือน พ.ย. (13/12), ราคานำเข้าและส่งออกเดือน พ.ย. (13/12), สต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน ต.ค. (13/12)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศ อยู่ที่ -2.5/-2.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +0.14/+0.84 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0