นางปวีณา นันทิกุลวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงสถิติการขายรถยนต์ ใน เม.ย.2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 86,076 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% ซึ่งค่ายที่มียอดขาย 3 อันดับแรก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง อันดับ 1 ได้แก่ โตโยต้า มียอดขาย 26958 คัน โต 15.9% ตามด้วยอีซูซุ ยอดขาย 15,389 คัน เพิ่มขึ้น 4.2% และ ฮอนด้า ยอดขาย 11,329 คัน เติบโต 8.6%
สำหรับยอดจำหน่ายรวมในเดือนดังกล่าว ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตสูงสุด คือ 16.9% ตัวเลข 34,931 คัน เพิ่มขึ้น 16.9%, ตามด้วยรถกระบะขนาด 1 ตัน เติบโต 7.2% ตัวเลข 41,233 คัน และสุดท้าย คือ ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพิ่ม 3.7% ตัวเลข 51,145 คัน
ทั้งนี้ เนื่องจากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่และกิจกรรมส่งเสริมการขายที่แนะนำในช่วงงานมอเตอร์โชว์ ส่งผลให้มีการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์
ด้านยอดจำหน่ายรถยนต์สะสมในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.2562) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10.5% ตัวเลข 349,625 คัน โดย โตโยต้า เติบโตสูงสุด 29.4% ตัวเลขอยู่ที่ 113,204 คัน และยังคงเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งตลาด 32.4% ตามด้วยอีซูซุ ที่เติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 2.1% ตัวเลข 60,311 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.3% และที่ 3 ฮอนด้า เติบโตเพิ่มขึ้น 6.3% ยอดขาย 41,333 คัน ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 11.8%
สำหรับในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา แบ่งเป็นยอดจำหน่ายของตลาดรถยนต์นั่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 137,551 คัน เติบโต 14.6% โดยโตโยต้า เติบโต 22.6% ตัวเลข 41,028 คัน ตามด้วยฮอนด้า โต 5.0% ตัวเลข 31,134 คัน ขณะที่อันดับ 3 มาสด้า เติบโตสูงสุดถึง 23.6% ตัวเลข 18,234 คัน
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ยอดขายรวม 212,074 คัน เติบโต 8.0% โดยโตโยต้า ครองที่ 1 ด้วยอัตราเติบโตสูงถึง 33.6% ตัวเลข 72,176 คัน ตามด้วยอีซูซุ เติบโตเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ 2.1% ตัวเลข 60,311 คัน และที่ 3 ฟอร์ด เติบโตลดลงสูงถึง 16.2% ตัวเลข 18,736 คัน
ส่วนตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายรวมทั้งสิ้น 173,938 คัน เพิ่มขึ้น 11.0% โดยโตโยต้า ยังครองที่ 1 และมียอดเติบโตเพิ่มขึ้นสูง
ถึง 35.6% ตัวเลข 64,341 คัน ตามด้วยอีซูซุ ยอดขายเพิ่ม 3.3% ตัวเลข 55,842 คัน และที่ 3 ยังคงเป็นฟอร์ด แม้ตัวเลขที่ลดลง 14.0% ยอดขายอยู่ที่ 18,735 คัน
และสุดท้าย ตลาดรถกระบะ PPV มียอดขายเพิ่มขึ้น 9.3% ตัวเลข 4,976 คัน โดยอันดับ 1 โตโยต้า เพิ่มขึ้นถึง 10.3% ตัวเลข 9,553 คัน ตามด้วยอีซูซุ เติบโตลดลง 8.0% ตัวเลข 3,786 คัน และมิตซูบิชิ เติบโต 11.0% ตัวเลข 4,746 คัน
สำหรับยอดจำหน่ายสะสมในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่ง และตลาดรถกระบะ Pure Pick up เติบโตสูงสุด ทั้งนี้ เป็นผลมาจากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ และรุ่นปรับปรุงใหม่ที่แนะนำเข้าสู่ตลาดมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นอีกเหตุปัจจัยที่เป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจและตัดสินใจซื้อรถใหม่
ขณะที่ตลาดรถยนต์ในช่วงเดือน พ.ค. คาดว่า ตัวเลขยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และเป็นอีกปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่บ้าง แต่ก็ยังจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก