เอเอฟพี - เคอิ โคมุโระ พระสหายหนุ่มคนสนิทของเจ้าหญิงมาโกะแห่งญี่ปุ่น แถลงยืนยันวันนี้ (22 ม.ค.) ว่าครอบครัวของเขาสะสางปัญหาทางการเงินซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ต้องเลื่อนพิธีเสกสมรสกับเจ้าหญิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คำยืนยันของ โคมุโระ ดูเหมือนจะเป็นการตอบสนองต่อพระดำรัสของเจ้าชายอากิชิโนะ พระราชโอรสองค์รองในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและพระบิดาของเจ้าหญิงมาโกะ ซึ่งทรงขอให้ครอบครัวของฝ่ายชายไปจัดการปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อน
โคมุโระ และเจ้าหญิงมาโกะเคยประกาศจะเข้าพิธีหมั้นหมายตามธรรมเนียมของราชวงศ์ในปีที่แล้ว และมีกำหนดจัดพิธีเสกสมรสในราวๆ เดือน พ.ย. ทว่ากำหนดการทั้งหมดได้ถูกเลื่อนออกไปในเดือน ก.พ. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าครอบครัวของ โคมุโระ ประสบปัญหาทางการเงิน เนื่องจากมารดาไม่ยอมจ่ายคืนหนี้ 4 ล้านเยนที่ยืมมาจากอดีตคู่หมั้น
โคมุโระ ยืนยันวันนี้ (22) ว่า คุณแม่ของเขาและอดีตคู่หมั้นได้ “ตกลงปัญหาทางการเงินกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” พร้อมขออภัยที่ตนไม่ได้อธิบายสถานการณ์ให้ชัดเจนจน “สร้างความลำบากใจต่อหลายฝ่าย”
“คุณแม่และผมรู้สึกซาบซึ้งในการสนับสนุนที่ได้รับจากอดีตคู่หมั้นของแม่ และเราจะพยายามทำให้เขาเข้าใจ” โคมุโระ กล่าว
โคมุโระ วัย 27 ปี อธิบายว่า แม่ของเขาเลิกรากับอดีตคู่หมั้นเมื่อปี 2012 ซึ่งตอนนั้นฝ่ายชายยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องคืนเงินที่ให้เป็นของกำนัล แต่แล้วในเดือน ส.ค. ปีถัดมากลับส่งจดหมายมาทวงหนี้
แม่ของเขาได้ไปพบอดีตคนรักเพื่อบอกว่าไม่มีเงินจ่าย จากนั้นฝ่ายชายก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรอีก
เขาและแม่รู้สึก “ตกตะลึง” หลังทราบข่าวในช่วงเดือน ธ.ค. ปี 2017 ว่า อดีตคู่หมั้นของแม่ยังต้องการได้เงินคืน โดยตอนนั้นข่าวการหมั้นหมายระหว่างเขากับเจ้าหญิงมาโกะได้ถูกประกาศออกไปแล้ว 2 เดือน
เจ้าหญิงและ โคมุโระ ได้ประกาศเลื่อนพิธีเสกสมรสออกไปจนถึงปี 2020 โดยให้เหตุผลว่าต้องการเวลาในการเตรียมตัว ขณะที่บรรดาสื่อซุบซิบรายงานว่าเหตุผลที่ต้องเลื่อนพิธีนั้นไม่ใช่แค่เรื่องเงินๆ ทองๆ เพียงอย่างเดียว
เจ้าหญิงมาโกะทรงระบุผ่านแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังญี่ปุ่นในขณะนั้นว่า พระองค์และว่าที่คู่หมั้นตระหนักว่า “รีบร้อนเกินไป” และต้องการใช้เวลาในการตรึกตรองอย่างลึกซึ้งและเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงานและการใช้ชีวิตร่วมกันในอนาคต
เจ้าชายอากิชิโนะได้พระราชทานสัมภาษณ์เมื่อเดือน พ.ย. ว่า พระธิดาและ โคมุโระ จะต้อง “มีมาตรการที่เหมาะสม” หากยังต้องการที่จะเสกสมรส และพิธีหมั้นหมายอย่างเป็นทางการจะยังเกิดขึ้นไม่ได้ จนกว่าทั้งสองจะ “เคลียร์ปัญหาจบ”
ราชวงศ์ญี่ปุ่นจะมีพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งในปีนี้ เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ พระชนมายุ 85 พรรษา จะทรงสละราชสมบัติในวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งถือเป็นการสละบัลลังก์ของจักรพรรดิญี่ปุ่นในรอบกว่า 200 ปี โดยเจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯ ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่ในวันถัดมา
