พ่อสาวถูกปอร์เช่เสียชีวิต นิมนต์พระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ เผย ไม่ให้การช่วยเหลือลูกสาวและไม่เคยไปร่วมงานศพ ต้องคุยผ่านตัวแทนตลอด…
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nicha Cha Cha Nirasawong ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ปอร์เช่ ซิ่งชนมอไซค์ สาวสวยดับอนาถ แฟนหนุ่มแขนขาขาด บริเวณถนนหลักหก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เป็นรถมอไซค์ใหม่ป้ายแดง ฮอนด้ารีเบล คนขี่มอไซค์ชื่อ นายวริศ ศรีลาชัยมณีกุล อายุ 31 ปี แฟนสาวนั่งซ้อนท้ายมาด้วยกันชื่อ น.ส.อันธิกา ทูลไธสง อายุ 24 ปี เสียชีวิตคาที่ ส่วนรถปอร์เช่ ทะเบียน ษณ86 กรุงเทพมหานคร เหตุเมื่อเวลา 04.00 น. 16 พ.ย.62
ทราบว่าหลังเกิดเหตุคนขับรถปอร์เช่ ไม่ลงมาดูคู่กรณี ยืนคุยโทรศัพท์ให้เพื่อนมารับไปร้านสะดวกซื้อหาของกินแถวนั้น มีพลเมืองดีแจ้งว่า #ได้กลิ่นเหล้าคลุ้งไปหมด แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ อ้างว่า #ไม่จำเป็นต้องตรวจ เพราะไม่มีกลิ่นเหล้า แถมปิดห้องคุยกันเองระหว่างเจ้าหน้าที่ คนขับรถปอร์เช่ และตัวแทนประกันรถยนต์ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปฟัง นายธนกฤต ธัญญธนภัทร พ่อผู้ตายจึงอยากร้องขอความเป็นธรรม อยากให้เจ้าหน้าที่ทำคดีแบบตรงไปตรงมา พ่อผู้ตายยังได้เปิดเผยว่า มีลูกคนเดียว ลูกสาวเปิดร้านอาหารกับแฟนหนุ่ม เป็นเสาหลักของครอบครัว รู้สึกเสียใจมาก และรู้สึกโกรธมาก ทำไมผู้ก่อเหตุไม่เคยมาดูแลอะไรเลย แม้แต่วันรดน้ำศพก็ยังไม่มาขอขมาศพ”
ล่าสุด นายธนกฤต ถือภาพลูกสาว พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณในจุดเกิดบริเวณถนนหลักหก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์พาชี้จุดที่ น.ส.อันธิกา นอนหมดสติ เพื่อจะได้จุดธูปเชิญดวงวิญญาณตามความเชื่อ จากนั้นนายธนกฤต ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเสียความรู้สึกที่ขณะเกิดเหตุคู่กรณี ไม่ให้การช่วยเหลือลูกสาวและหลังจากที่ลูกสาวเสียชีวิตก็ไม่เคยไปร่วมงานศพ ซึ่งการพูดคุยแต่ละครั้งมักมีตัวแทนพูดผ่านตลอด จึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมไม่แสดงความรับผิดชอบโดยการมาคุยด้วยตัวเอง และกระแสข่าวที่คู่กรณีจะรับเป็นเจ้าภาพจัดงานศพของลูกสาวทุกคืนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ตลอดจนโต้แย้งข้อมูลที่ตำรวจบอกว่าวันเกิดเหตุญาติไม่ติดใจเอาความเรื่องเมาแล้วขับ เพราะไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ ซึ่งวันเกิดเหตุไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตอยู่โรงพักมีเพียงฝั่งของแฟนหนุ่มลูกสาวเท่านั้น
ส่วนพ่อแม่ของ นายวริศ เดินทางมาที่ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อรอพบคู่กรณี โดยบอกถึงอาการล่าสุดของลูกชายว่า แพทย์ต้องตัดขาขวาตั้งแต่ใต้หัวเข่าลงไป เนื่องจากเส้นเลือดใหญ่แตกทั้งหมด และแขนขวาหัก 2 ท่อน ซึ่งทั้งซีกขวาของร่างกายได้รับแรงกระแทกอย่างหนักและยังน่าเป็นห่วง โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้มาพบเพื่อเจอคู่กรณีครั้งแรก ซึ่งจะมีการพูดคุยเรื่องค่าเสียหาย ทั้งนี้ทางครอบครัวของผู้บาดเจ็บยังไม่ทราบถึงกระแสข่าวคนขับรถปอร์เช่ว่าปฎิเสธการเป่าแอลกอฮอล์หรือไม่ เพราะมั่นใจการทำหน้าที่ของตำรวจ
เบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ตลอดจนคู่กรณีอยู่ สภ.ปากคลองรังสิต แล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำทีละฝ่าย และทางคู่กรณีแต้งกับพนักงานสอบสวนว่าจะจ่ายเงินเยียวยาขั้นต้นก่อนภายในเย็นวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คู่กรณีจะชดใช้ครอบผู้เสียชีวิต 12,000,000 บาท และเงินใส่ซองวันนี้ครอบครัวทั้งคนเจ็บและผู้เสียชีวิตเยียวยาก่อน ครอบครัวละ 100,000 บาท ส่วนเงินชดใช้ผู้บาดเจ็บอยู่ระหว่างการพูดคุย.
