โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คุยกับ “ดร. แม็กซ์ ชมิด” ผู้สร้างหัวใจแห่งดวงดาว

Manager Online

อัพเดต 17 มิ.ย. 2562 เวลา 03.04 น. • เผยแพร่ 17 มิ.ย. 2562 เวลา 03.04 น. • MGR Online

เรื่องราวของรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นั้น เชื่อว่า ทุกคนรับรู้กันมาเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของความทนทาน และการตอบสนองการใช้งานที่ได้รับความไว้วางใจ ซึ่งในการทดลองขับ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่” ที่ประเทศเยอรมนี ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง มีโอกาส สนทนากับ “ดร.เม็กซ์ ชมิด” วิศวกรเครื่องยนต์ ผู้พัฒนาเครื่องยนต์เบนซินตัวใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไปดูกันว่า ที่เคลมว่าใหม่นั้น แท้จริงแล้วมีอะไรบ้าง

ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซินที่เขาดูแลรับผิดชอบนั้น รหัสเครื่องยนต์ยังเหมือนเดิม และขนาดความจุเท่าเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปมีมากมายหลายอย่าง จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ใหม่ก็ว่าได้ เพราะมีการปรับปรุงชิ้นส่วนและเพิ่มเทคโนโลยีใหม่หลักๆ หลายรายการ ไล่เรียงดังต่อไปนี้

1.เปลี่ยนแคมชาฟท์ใหม่ ให้มีความสามารถในการปรับการเปิด-ปิดของวาล์ว ได้อย่างละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

2.ปรับทรงกระบอกสูบ เพื่อลดแรงเสียดทานในกระบอกสูบ โดยมีการขยายที่ด้านล่างของกระบอกสูบให้กว้างขึ้นเป็นทรงรูปตัว A ซึ่งจะ เพิ่มพื้นที่ ช่วยลดแรงดันเวลาที่ลูกสูบเลื่อนต่ำลงสุด โดยเป็นการขยายเพิ่มเพียงเล็กน้อยมากในระดับไมครอน จึงไม่ส่งผลต่อขนาดความจุของกระบอกสูบ แต่สามารถลดแรงเสียดทานได้ถึง 60%

3.เปลี่ยนหัวฉีดใหม่ จาก Piezo ทำให้เสียงดังลดน้อยลง

4.ลดเสียงดังของการหมุนต่างๆ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนสายพานใหม่

5.เปลี่ยนเทอร์โบใหม่ เป็นแบบ twin scroll ที่มีระบบแปรผัน ช่วยให้การทำงานตอบสนองดีขึ้น

6.ปรับระบบระบายความร้อนใหม่ เปลี่ยนอินเตอร์คูลเลอร์ เปลี่ยนปั้มน้ำใหม่ เพิ่มอัตราการไหลเวียนของน้ำหล่อเย็นในระบบให้ไหลลื่นมากกว่าเดิม

7.ขยับตำแหน่งของแคทเทอร์ไลติกคอนเวอร์ทเตอร์ ให้เข้ามาอยู่ใกล้กับต้นทางของท่อไอเสียมากขึ้น เพื่อการเผาทำลายไอเสียที่ดีกว่าเดิม

8.เพิ่มระบบแบตเตอรี่ 48 โวลต์ เข้ามาช่วยเก็บพลังงานจากการเบรกไปสะสมไว้ในแบตเตอรี่แล้วนำกลับมาใช้เมื่อรถต้องการกำลัง เช่น ตอนเร่งแซง ตามหลักการทำงานของระบบไมล์ดไฮบริด ช่วยลดภาระของเครื่องยนต์ อันเป็นผลสำคัญในการช่วยลดมลพิษลงได้อีกส่วนหนึ่ง

ทั้งหมดที่มีการปรับเปลี่ยนจะเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยตัวเลขของพิกัดกำลัง ที่เพิ่มขึ้นจาก 242 แรงม้า กลายมาเป็น 258 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ส่วนแรงบิดยังคงเท่าเดิม ขณะที่อัตราการปล่อยไอเสียลดลงไปประมาณ 3-10 กรัม/กม. เมื่อเทียบกับโฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์

สำหรับประเทศไทย อีกไม่เกินสิ้นปีนี้ คงจะได้เห็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี โฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนจะมีรุ่นเครื่องยนต์แบบใดมาให้เลือกคบหาบ้างนั้น อดใจรอชม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0