โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

คุมเข้ม! ไวรัสโคโรนา โรคระบาด “คนสู่คน” จากประเทศจีน

GedGoodLife

เผยแพร่ 23 ม.ค. 2563 เวลา 04.27 น. • Ged Good Life ชีวิตดีดี
คุมเข้ม! ไวรัสโคโรนา โรคระบาด “คนสู่คน” จากประเทศจีน

เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีการระบาดของโรคปอดอักเสบลึกลับ ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยไวรัสลึกลับ ซึ่งทำให้มีคนเจ็บป่วยจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิต ในที่สุดทางการจีนก็พบว่า ไวรัสลึกลับที่ว่านี้ คือ ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ Novel coronavirus 2019 ชื่อย่อ คือ 2019-nCoV

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) เริ่มขึ้นที่ตลาดค้าสัตว์ ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด หลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตลาดได้ถูกสั่งปิด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาด ติดต่อกันระหว่างสัตว์ ได้แก่ หมู วัว ควาย แมว สุนัข อูฐ ค้างคาว และหนู รวมทั้งติดต่อจากสัตว์มายังคนด้วย แต่ยังไม่ได้มีการติดต่อจากคนสู่คน จนกระทั่งล่าสุด มีการยืนยันจากทางการจีนว่า เชื้อไวรัสสามารถติดต่อจาก “คนสู่คน” ได้แล้ว ยิ่งเพิ่มสถานการณ์ความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่คนจีนมักเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น

สถานการณ์ โรคระบาด “ไวรัสโคโรนา”

30 ธ.ค. 2562 - วันที่ 11 ม.ค. 2563 ทางการจีนรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ จากไวรัสโคโรนา ทั้งสิ้น 59 ราย เสียชีวิต 1 ราย มีอาการป่วยรุนแรงรักษาในโรงพยาบาลอีกหลายราย

มีการรายงานผู้ติดเชื้อชาวจีนในไทย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

13 ม.ค. 2563 กระทรวงสาธารณสุขไทย แถลงพบผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ คนแรกในไทย โดยเป็นหญิงชาวจีนวัย 61 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย

16 ม.ค. 2563 กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น แถลงยืนยันกรณีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นชายอยู่ในช่วงวัย 30 ปี อาศัยในเขตคานากะวะ ติดกับกรุงโตเกียว โดยเพิ่งเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น

20 ม.ค. 2563 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน แถลงว่าผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย์ เสียชีวิตอีก 1 รายแล้ว นับเป็นรายที่ 3 ของการระบาดครั้งนี้ ส่วนยอดผู้ป่วยรายใหม่ที่รายงานเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีถึง 136 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ที่ 198 ราย

img-responsive

พบว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ติดต่อจาก “คนสู่คน”

21 ม.ค. 2563

- ทางการจีน ยืนยัน ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สามารถ 'ติดต่อคนสู่คน' ได้

- นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่น เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วประเทศมีจำนวนเกือบ 300 ราย

- พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ไต้หวัน และ สหรัฐอเมริกา

22 ม.ค. 2563

- องค์การอนามัยโลกจะจัดประชุมวาระเร่งด่วน ณ เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 22 ม.ค. นี้ เพื่อหารือว่าจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับการแพร่ระบาดนี้หรือไม่

- ทางการจีนยืนยัน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 9 ราย และติดเชื้อ 440 ราย

- ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อ ตัวเลขอย่างเป็นทางการ คือ 2 ราย

รู้จัก “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่”

ไวรัสโคโรนา เป็นไวรัสที่รู้จัก และค้นพบมานานมากว่า 80 ปี แล้ว ก่อโรคได้ทั้งในคน ในสัตว์ โดยในคนทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบ

เมื่อ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 มีผู้ป่วยโรคปอดบวม พร้อมกันในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ทางการจีนพยายามหาว่าเป็นโรคที่เกิดจากเชื้ออะไร

ทางการจีนถอดรหัสไวรัสพบว่า คือ โคโรนาไวรัส แต่สายพันธุ์ทางพันธุกรรม ไม่เหมือนโคโรนาไวรัส ที่เคยพบมาในอดีต องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงตั้งชื่อไวรัสโคโรนาใหม่นี้ว่า“ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019”

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ Novel coronavirus 2019 หรือ 2019-nCoV ที่ระบุชื่อโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือ รู้จักกันในชื่อ ไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น หรือ ไวรัสปอดอักเสบอู่ฮั่น เป็นสาเหตุให้เกิดโรคปอดอักเสบ

โรคปอดอักเสบ

ปอดอักเสบ (pneumonia) ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบได้ทั้งการติดเชื้อ ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด และเนื้อเยื่อโดยรอบ

อาการของโรคปอดอักเสบ จากไวรัสโคโรนา

- อาการของโรคจากไวรัสโคโรนา เหมือนกับโรคที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ หายใจเร็ว หายใจไม่เต็มอิ่ม เหนื่อยหอบ เป็นต้น

- ปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาการเหมือนโรคระบบทางเดินหายใจจากไวรัสตัวอื่น แต่จะระบุว่า เป็นโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ต้องตรวจในห้องปฎิบัติการ

การแพร่ระบาดจาก คนสู่คน

ผู้เชี่ยวชาญของจีน ยืนยันหลังจากตรวจสอบหลักฐานที่เก็บรวบรวมจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นต้นตอการแพร่ระบาด ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้

โดยทั่วไป ไวรัสโคโรนา (Coronavirus) สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกาย ได้ 2 ช่องทางหลัก คือ

- ทางเดินหายใจ โดยการรับไวรัสจากสารคัดหลั่งที่เกิดจากการไอ จาม ซึ่งไวรัสโคโรนา เป็นไวรัสที่มุ่งไปที่ระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก

- ทางเดินอาหาร เกิดขึ้นได้น้อย โดยรับประทานสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย อาจเป็นช่องทางของไวรัสได้เช่นกัน

ความอันตรายของ ไวรัสโคโรนา

ไวรัสโคโรนา โดยทั่วไปไม่รุนแรง หรืออันตราย เพราะเกิดจากเชื้อไวรัส คล้ายกับโรคไข้หวัด หรือ โรคทางเดินหายใจทั่วไป แต่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต คือ หากปล่อยทิ้งไว้ หรือ ร่างกายอ่อนแอ เกิดภาวะแทรกซ้อนของปอดบวม ปอดอักเสบ ซึ่งอาจทำให้มีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้

การรักษาไวรัสโคโรนา สามารถรักษาหายได้ แต่ยังไม่มีการรักษาที่เฉพาะเจาะจง การรักษาเป็นเพียงการรักษาตามอาการ และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน

ไวรัสโคโรนา
ไวรัสโคโรนา

การป้องกันตัวเองจาก ไวรัสโคโรนา

- สวมใส่หน้ากากอนามัย หากเลี่ยงไม่ได้ ต้องเข้าไปที่ชุมชน คนเยอะ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน

- หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุก

- ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ล้างมือด้วยน้ำสะอาด ฟอกถูสบู่ หรือ ใช้แอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น

- หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ระหว่างเดินทางในต่างประเทศ พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอ จาม

- กินอาหารปรุงสุกใหม่ ไวรัสโคโรนาจะหมดสภาพลงอย่างรวดเร็วเมื่อถูกความร้อน เมื่อได้รับความร้อนที่ 75 องศา เพียง 5 นาที หากใช้ความร้อนที่ 56-65 องศา อาจจะต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมง ดังนั้นควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ จะช่วยป้องกันได้

- ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ช้อนส้อม แก้วน้ำ ฯลฯ เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

- ดูแลร่างกายให้แข็งแรง รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

- เฝ้าระวังหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ที่มา :
https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.html
https://news.thaipbs.or.th/clip/537899
https://www.facebook.com/avctbiotec/

 

"Expert ดีดี" ไอ หวัด ปวดท้อง ภูมิแพ้ อย่าปล่อยให้เรื้อรัง ปรึกษาฟรี คลิกเลย!

ผื่นแพ้สัมผัส
ผื่นแพ้สัมผัส

ติดตามGedGoodLife ช่องทางอื่น ๆ ได้ที่…

Facebook : GEDGoodLife
Nutroplex : nutroplexclub
Twitter      : @gedgoodlife
Line          : @gedgoodlife
Youtube   : GEDGoodLife ชีวิตดีดี

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0