จากกรณีชาวเน็ตแชร์เตือนภัย เรื่องพฤติกรรมของ "ป้ามหาภัย" ที่อ้างว่าโดนกรีดกระเป๋า ถูกขโมยทรัพย์สินมีค่าจนกลับบ้านไม่ได้ ทำให้คนที่ได้รับฟัง ยื่นเงินให้ด้วยความสงสาร แต่หากใครไม่ให้เงินก็จะถูกป้าด่า
ล่าสุด ที่สน.ห้วยขวาง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ต.ค. 2562 น.ส.ยุพาพร พันธัง อายุ 53 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดูหมิ่นซึ่งหน้า หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกด่าทอทำให้อับอายขายหน้า ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาขึ้นรถจักรยานยนต์ไปรับโทษเปรียบเทียบปรับที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
น.ส.ยุพาพร กล่าวด้วยความสับสนว่า คดีความที่เกิดขึ้นไม่ได้มีปัญหากับตนเท่าใดนัก และยังเชื่อว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเทียบกับเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมที่ใหญ่กว่ามาก แต่ยังขอไม่พูดอะไรมาก เพราะหากพูดจะยาว และเกรงว่าจะละเมิดอำนาจศาล
หลังเสร็จสิ้นคดีคาดว่า จะไม่กลับไปพักที่ห้องเช่าย่านลาดพร้าวแห่งเดิมอีกแล้ว ตนยังมีภารกิจทางความคิดอีกหลายอย่างที่จะต้องทำ แบบที่ตนเองมักแต่งกายด้วยชุดสีดำล้วน ไม่เคยแต่งกายด้วยชุดสีอื่น ทั้งยังสวมหมวกสะพายกระเป๋าย่ามและพกร่ม ถือว่ามีนัยทางความคิดบางอย่างเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ศาลแขวงพระนครเหนือ ได้พิเคราะห์พฤติการณ์ตามข้อกล่าวหา ประกอบกับไต่สวนจำเลยตามคำให้การแล้ว พิพากษาปรับเป็นเงิน 3,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยไม่มีเงินชำระค่าปรับและไม่สามารถติดต่อญาติได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวไปกักขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แทนการชำระค่าปรับ โดยมีการคิดอัตราโทษกักขัง 1 วัน แทนการชำระเงินค่าปรับ 500 บาท ซึ่งน.ส.ยุพาพร ต้องถูกกักขังเป็นเวลา 6 วัน นับตั้งแต่ที่มีคำพิพากษา